Community Zone
ข้อแนะนำในการกลับมาต่อ Student Visa หลังหมดวีซ่า Work and Holiday แล้ว
โดย : zgamez   (28 November 2012) จำนวนผู้เข้าชม 8600 คน

ข้อแนะนำในการกลับมาต่อ Student Visa หลังหมดวีซ่า Work and Holiday แล้ว


สำหรับหลายๆคนที่วางแผนไว้ว่าจะกลับไปเรียนต่อออสเตรเลียอีกรอบ หลังจากหมดวีซ่า Work and Holiday แล้ว ผมมีข้อแนะนำในการเตรียมตัวดังนี้ครับ
1) คอร์สเรียน : โดยหลักๆแล้วที่ผมเจอน้องๆ Work and Holiday ที่ให้ผมทำเคสให้ส่วนมากจะกลับไปเรียนในระดับปริญญาโท และตรี และมีส่วนนึงที่ไปเรียน Diploma หรือภาษา (แต่เรียนภาษาอย่าง

เดียวจะมีอัตราส่วนน้อยที่สุดถ้าเทียบกับอย่างอื่น)

โดยหลักๆแล้วผมจะแนะนำให้เลือกคอร์สเรียนจากวัตถุประสงค์หลักของเราเอง โดยคำนึงประวัติและหลักฐานของแต่ละคนด้วยว่าเหมาะกับแบบไหนมากกว่าครับ
สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเรียนอะไรแบบไหน ลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมในลิงค์เหล่านี้ได้ครับ
1.1 เรียนภาษา ออสเตรเลีย
1.2 เรียน Diploma
1.3 เรียนในระดับมหาวิทยาลัย

สำหรับในระดับมหาวิทยาลัยหรือเทียบเท่า นอกจากวุฒิที่จะได้แล้ว ช่วงปีหลังๆ ทางออสเตรเลียเองค่อนข้างสนับสนุนเรื่องการเรียนต่อในระดับปริญญาตรี และโท ตลอดจนในระดับ research (โทแบบ research และ เอก) กล่าวคือให้สิทธิกับนักเรียนในกลุ่มนี้ค่อนข้างเยอะ เช่น

- นักเรียนที่เรียนในระดับ Higher Education ที่มีระยะเวลาของคอร์ส 2 ปี สามารถสมัคร Post Study Work Visa เพื่ออยู่ทำงานต่อในออสเตรเลียได้ (ไม่กำหนดสาขาที่เรียน – สาขาอะไรก็ต่อได้) อีก 2 ปีสำหรับระดับปริญญาตรี และโท และ 3 และ 4 ปีตามลำดับสำหรับ Master Degree by Research กับปริญญาเอกครับ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Post Study Work Visa ได้บนเวป DIAC - Post Study Work Visa ครับ
- ผู้ติดตามของนักเรียนระดับป.โทขึ้นไปสามารถทำงานได้ full-time ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องชม.ทำงาน หลังนักเรียนเริ่มเรียนคอร์สหลักไปแล้ว
- ผู้ถือวีซ่านักเรียนแบบ Higher program by research ได้สิทธิ์ทำงาน full-time ตอนเรียน
-สามารถยื่นวีซ่าออนไลน์ได้ โดยจะใช้หลักฐานน้อยกว่าการยื่นแบบ paper ครับ
อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่เรียนคอร์สสั้นๆแล้วกลับ ก็จะมีปริญญาโท และส่วนหนึ่งของปริญญาโทที่สามารถเรียนจบในเวลาสั้นๆได้ เช่น ป.โทแบบที่จบในปีเดียว หรือ Graduate Certificate ที่ระยะเวลาประมาณครึ่งปี (เนื้อหาเหมือนเรียนเทอมแรกป.โท) คอร์สเหล่านี้ให้ความรู้ได้ดีเหมือนกันเพียงแต่ว่าจะไม่เกี่ยวกับเรื่อง Post Study Work Visa สำหรับคนที่วางแผนจะอยู่ออสเตรเลียยาวๆครับ



2) ผลภาษา: ก่อนที่เราจะเข้าไปเรียนในระดับใดๆก็ตาม (ยกเว้นภาษาแบบ General English ) เราจะต้องมีภาษาอังกฤษในระดับที่เค้าต้องการกล่าวคือ
Diploma – โดยปกติที่ 5.5 แต่มีบางที่ที่รับ 5.0 หรือ 6.0 บ้างแล้วแต่สาขาวิชาและสถาบันครับ
Higher Education (ตรี โท เอก) สำหรับป.ตรีและ ป.โทปกติอยู่ที่ 6.0-7.0 แล้วแต่สาขาวิชา ถ้าby research จะสูงขึ้นอีกหน่อยครับ

โดยปกติเด็ก Work and Holiday จะมี IELTS กันอยู่แล้ว แต่ถ้าใครที่วางแผนว่าจะกลับไปเรียนอีกรอบแล้ว IELTS ยังไม่ถึงระดับที่เค้ากำหนด ในช่วงที่เรายังอยู่ในออสเตรเลีย สถาบันหลายๆที่เราสามารถนัดเข้าไปทำ placement test เพื่อบอกระยะเวลาที่ต้องเรียนภาษาอังกฤษได้ครับ ซึ่งถ้าจะนัดทำ placement test ที่ไหนติดต่อให้ผมนัดให้ทาง info@thaiwahclub.com / zgamez@beyondstudycenter.com ได้ครับ ซึ่งถ้าได้ไปทำเทสแล้วผมแนะนำว่าไหนๆก้ได้ไปที่แคมปัสเค้าแล้ว ถ่ายรูปตัวเองกับป้ายรร. หรือสถาบัน หรือถ่ายกับสตาฟบ้างให้เห็นว่าเราอยากมาเรียนที่นี่จริงๆมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วยก็ยิ่งดีครับ

การที่เราทำข้อสอบได้ดีทำให้ระยะเวลาในการเรียนภาษาน้อยลงก็จะทำให้เราประหยัดไปได้ประมาณนึง แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยเรียนในต่างประเทศเลย แล้วสอบ IELTS ผ่านหรือ placement test ผ่านเลย แนะนำว่าลงเรียนสักหน่อย ( 8-10 weeks ) ก็จะช่วยเราได้เยอะในตอนเรียน โดยเฉพาะการเรียนภาษาแบบ English for Academic Purpose เพื่อเตรียมตัวใช้เรียนต่อครับ แต่ถ้าภาษาผ่านอยู่แล้ว หรือเรียนเป็นโปรแกรมภาษาอังกฤษ หรือเรียนในต่างประเทศมาก่อนแบบนั้นไม่ต้องเรียนก็ได้ครับ



3) หลักฐานการเงิน และความสัมพันธ์กับ sponsor : หลักฐานการเงิน สถานทูตจะขอดูเป็น Bank Book ตัวจริงย้อนหลังหกเดือนเป็นหลักครับ โดยหากมีเงินก้อนใหญ่เข้ามาก็ต้องมีหลักฐานอธิบายไปอย่างละเอียดสำหรับการยื่นแบบ paper application
ส่วนถ้ายื่นแบบออนไลน์ (เรียนในมหาวิทยาลัย หรือเทียบเท่า) ก็จะดูเรื่องหลักฐานการเงินเข้มงวดไม่มากเท่าแบบ paper ในแง่ของหลักฐานที่ต้องยื่นเพิ่มเติมไปด้วยครับ : หลายๆครั้งจะมีคนถามว่าไม่ต้องยื่น statement ใช่มั้ยถ้ายื่นออนไลน์ ผมตอบว่าไม่เสมอไปนะครับ อยู่ที่สถาบันที่เราไปเรียนและหลักฐานอื่นๆของเราด้วย บางที่ก็ไม่เรียกเลย บางครั้งก็เรียก ซึ่งถ้าเค้าเรียกมาก็ต้องมีให้เค้าดูนะครับ
ซึ่งผมแนะนำว่าให้มีแนบไปแต่แรกก็จะดีกว่าครับสำหรับแบบออนไลน์
4) ขั้นตอนการดำเนินเรื่องเรียนต่อออสเตรเลียโดย Beyond Study Center และ Thaiwahclub ; : ปกติแล้วนักเรียนผมจะมีทั้ง Onshore และ offshore โดยถ้าคุยกันมาตั้งแต่ยังอยู่ที่ออสเตรเลียก็จะดำเนินเรื่องได้เร็วกว่านิดหน่อยครับ เพราะจะทำการสมัคร ชำระเงินเสร็จเรียบร้อยที่ออสเตรเลียเลย ก็จะกลับมาทำการดำเนินเรื่องวีซ่าเฉยๆ หรือหลายๆคนอาจจะกลับมาดำเนินเรื่องทุกอย่างที่ไทยเลยก็ได้เหมือนกันครับ
โดยปกติแล้ว ช่วงเริ่มติดต่อกันผมจะรบกวนให้ตอบคำถามเบื้องต้น เพื่อจะได้ให้ข้อมูลคร่าวๆ เพื่อผมจะได้ให้ข้อมูลที่ใกล้เคียงกับความต้องการได้มากที่สุดครับ
- เป้าหมายหลักในการไปเรียนครั้งนี้
- เมืองที่อยากไป (ถ้ามี)
- ระดับการศึกษาสูงสุดที่จบ / สาขา / เกรดเฉลี่ย
- ประสบการณ์การทำงานหลังจากเรียนจบ (ถ้ามี)
- งบประมาณที่กะไว้คร่าวๆ
- คอร์สเรียนที่สนใจ (คร่าวๆ)
- รายละเอียดของ sponsor ประกอบอาชีพอะไร
- คะแนน IELTS ล่าสุด (ถ้ามี)
- มีญาติอยู่เมืองไหนหรือเปล่า
- เคยยื่นวีซ่าออสเตรเลียแล้วหรือไม่ ผลเป็นอย่างไร

ซึ่งถ้าตอบคำถามเหล่านี้แล้วส่งเมลล์มาให้ที่ info@thaiwahclub.com หรือ zgamez@beyondstudycenter.com ผมจะช่วยได้มากในการเลือกคอร์สให้เหมาะสมกับความต้องการและหลักฐานของเราได้มากครับ
5) ช่วงเวลาสมัคร และเริ่มเรียน : ปกติเราจะมีเทอมของการเปิดเรียนเป็น 3 แบบในออสเตรเลีย ได้แก่
- Semester : 2 Semester ปี ปกติสถาบันที่เปิดเรียนเป็น semester ได้แก่ TAFE และ University จะแบ่งเป็นสองช่วงคือ Feb และ July
- Trimester : 3 trimesters / ปี – University หลายๆที่ใช้ระบบ Trimester เพื่อความสะดวกของนักเรียนในการจัดตารางเรียน จะแบ่งเป็น 3 ช่วงคือ Feb , July และ November
- Term : 4 term / ปี – ส่วนมากจะเป็น VET Providers คือ รร.ดิปโพลมาที่ไม่ใช่ TAFE จะสอนเป็น term คือ 4 เทอมต่อปี ปกติจะเรียน 9-10 weeks และปิดเทอม 3 weeks กัน
รายละเอียดแบบเป๊ะๆอาจต่างกันตามข้อกำหนดของแต่ละสถาบันครับ

การสมัครเรียนเรียนไม่ว่าจะเป็น Diploma หรือ คอร์สเรียนในมหาวิทยาลัย เราจะต้องคำนวนและแน่ใจกันก่อนด้วยว่า เราอยากไปเมื่อไหร่ เราควรจะเรียนภาษานานเท่าไหร่ โดยการยื่นผล IELTS หรือไปสอบกับทางสถาบันก่อน จะได้วางตารางเรียนกันได้ง่ายขึ้นครับ

6) โปรโมชันและ scholarship : ปกติแล้วสถาบันต่างๆจะโปรโมชันประจำช่วงนั้นๆ เช่น Jan – Mar เป็นต้น หลังจากหมดโปรโมชันนี้ก็จะมีโปรโมชันถัดไปเช่น Apr – Jun ซึ่งจริงๆแล้วทางเอเจนท์อย่างผมเองก็จะทราบโปรโมชันถัดไปก่อนที่จะหมดโปรโมชันเก่าไม่นานนักครับ ซึ่งโปรโมชันเหล่านี้อาจจะเป็นราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิมหรือถูกลงกว่าเดิมก็เป็นไปได้ครับ ดังนั้นถ้าพอใจกับโปรโมชันช่วงไหนก็แนะนำว่าสมัครไว้ก่อนเลย
ช่วงเดียวของปีที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าราคาจะขึ้นคือช่วง หลังปีใหม่ เพราะว่าหลายๆปัจจัย เช่น ค่าเช่า ค่าอุปกรณ์ ค่าอาจารย์ จะสูงขึ้น ดังนั้นสำหรับรร.ต่างๆจึงมักจะเป็นช่วงที่ราคาสูงขึ้น สำหรับคนที่วางแผนจะกลับไปในช่วงหลังปีใหม่ ไม่เกิน มีนาคม แนะนำว่าให้สมัครไว้ก่อนสิ้นปีจะประหยัดกว่าสมัครต้นปีครับ แต่สำหรับช่วงอื่นๆก็อย่างที่บอกไป โปรโมชันจะมีเรื่อยๆแต่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆจากหลายๆปัจจัย เช่น ช่วงนี้นักเรียนไทยน้อย โปรโมชันก็อาจจะราคาประหยัด เพราะเค้าอยากได้นักเรียนไทยเยอะขึ้น เพื่อให้รร.มี Nationality Mix ที่ดี เป็นต้น

7) กรณีมีผู้ติดตาม : สำหรับคนที่มีแฟนเรียนอยู่ที่ออสเตรเลียอยู่แล้ว หรืออยากกลับไปเรียนต่อโดยพาแฟนไปด้วย ผมเขียนบทความแนะนำเรื่องการยื่นวีซ่าติดตามไว้ที่นี่ครับ - การยื่นวีซ่าติดตามนักเรียนด้วยตัวเอง

8) ขั้นตอนการสมัครเรียนแบบละเอียด : ปกติแล้วหลังจากคุยรายละเอียดต่างๆเราจะดำเนินการสมัคร โดยปกติผมจะขอดู statement ก่อนดำเนินการสมัครและชำระเงินเพื่อขอ CoE เพื่อให้อัตราการผ่านของวีซ่าสูงครับ โดยขั้นตอนคร่าวๆจะเป็นดังบทความนี้ครับ
ขั้นตอนการสมัครเรียน - Beyond Study Center

สำหรับคำถามเพิ่มเติม นอกเหนือจากนี้สามารถเมลล์หาผมได้โดยตรงที่ info@thaiwahclub.com / zgamez@beyondstudycenter.com หรือจะโทรถามที่ออฟฟิศ Beyond Study Center ที่เบอร์ 02 664 0719 ก็ได้ครับ


 

Blog ที่เกี่ยวข้อง
IELTS Jan 2014 by Thaiwahclub
ดูทั้งหมด
Webboard ที่เกี่ยวข้อง
ดูทั้งหมด

Social Network


 
Advertrising