Community Zone
How to book cheap flights
โดย : zgamez   (2 June 2014) จำนวนผู้เข้าชม 5309 คน

เทคนิค 10 ข้อที่ช่วยให้จองเที่ยวบินได้ถูกลง
เว็บไซต์ CheapAir.com ได้รวบรวมข้อแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินในการจองเที่ยวบิน ดังนี้



1. ตรวจสอบค่าเดินทางแต่เนิ่นๆ และบ่อยๆ
รู้หรือเปล่าว่าส่วนต่างค่าตั๋วระหว่างวันที่คุ้มที่สุดกับวันที่แพงที่สุดอยู่ที่ 236 ดอลล่าร์เลยทีเดียว! นี่ไม่รวมคนที่จ่ายเงินภายใน 7 วันนะ (ซึ่งคนพวกนี้จ่ายเยอะขึ้นไปอีก)  สายการบินมักจะเปลี่ยนแปลงราคาอยู่เสมอ สัปดาห์ละหลายครั้ง ฉะนั้น สำหรับการซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว การเลือกเวลาสำคัญที่สุด ขอแนะนำให้คุณรีบตรวจสอบค่าเดินทาง ทันทีที่รู้ตัวว่าจะต้องบิน แล้วให้ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จะได้รู้ว่ามีข้อตกลงราคาดีๆหรือไม่ และเมื่อเจอราคาที่ถูกใจแล้ว ขอให้เตรียมพร้อมได้เลยเพราะราคานี้อาจไม่ได้คงอยู่นานนัก เรารู้ว่ามันฟังดูบ้าบอ (และกวนประสาท) แต่พวกสายการบินนั้นใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่แสนจะโชกโชนในการปรับเปลี่ยนราคาแบบในทันที ดังนั้นการซื้อตั๋วเครื่องบินเลยเหมือนการเล่นหุ้นก็ว่าได้!

2. ซื้อตั๋วให้ถูกเวลา
การรู้ว่าควรซื้อตั๋วเวลาไหนคือเคล็ดลับที่ดีที่สุดที่ช่วยให้ประหยัดเงินไปเที่ยวได้มากโข เราได้ทำการศึกษาเมื่อปีที่แล้วและพบว่าสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศนั้น โดยเฉลี่ยแล้ว ระยะเวลาที่เหมาะสมต่อการซื้อตั๋วคือ ซื้อล่วงหน้า 49 วัน (ประมาณ 7 สัปดาห์) แต่จำนวนวันดังกล่าวก็สามารถบวกลบได้นิดหน่อยขึ้นอยู่กับสถานที่และวันเวลาที่คุณจะเดินทาง  บทเรียนสำคัญที่สุดที่ได้จากการศึกษานี้คือ คนเรามักจะจ่ายเงินจองก้อนใหญ่ช้าเกินไป (ภายใน 14 วัน) หรือไม่ก็จ่ายเงินจองเร็วเกินไป (จ่ายล่วงหน้ามากกว่า 5 เดือน) การจ่ายล่วงหน้าในระหว่างช่วง 3-4 สัปดาห์ เป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับเที่ยวบินในสหรัฐฯ แม้ว่าเวลาดังกล่าวจะใช้ไม่ได้ผลหากคุณจะเดินทางในวันหยุดหรือในช่วงพีคก็ตาม (ดูที่ข้อ 4)

3. บางวันราคาจะถูกกว่าวันอื่นๆ
วันที่คุณจะเดินทางสามารถทำให้ราคาตั๋วต่างกันได้เยอะมาก วันอังคารกับวันพุธเป็นวันที่ราคาตั๋วจะถูกสุดสำหรับเที่ยวบินในประเทศ และวันศุกร์กับวันอาทิตย์คือวันที่ราคาตั๋วแพงสุด (วันจันทร์ พฤหัสบดี และเสาร์ ราคาจะอยู่กลางๆ) ส่วนต่างระหว่างเที่ยวบินวันอังคารกับเที่ยวบินวันอาทิตย์แบบเที่ยวเดียวอยู่ที่ 29 ดอลล่าร์โดยเฉลี่ย หรือ 58 ดอลล่าร์สำหรับไป-กลับ หากคุณจะเดินทางในช่วงสุดสัปดาห์ ขอให้เลือกเป็นวันเสาร์ถึงวันจันทร์หรือถึงวันอังคารแทนที่จะเป็นวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์จะดีกว่า และหากคุณจะเดินทางทั้งสัปดาห์เต็มๆ เลือกวันอังคารถึงอังคาร หรือวันพุธถึงพุธจะดีที่สุด และโดยทั่วไปแล้ว หากคุณยืดหยุ่นเวลาได้ ให้เช็ควันที่สามารถสลับสับเปลี่ยนได้ในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะคุณไม่อาจรู้ได้เลยว่าอาจจะมีช่วงวันติดกันที่ค่าตั๋วถูกกว่าวันอื่นๆ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันก็เป็นได้

4. นึกถึงเรื่องฤดูกาลท่องเที่ยวและเรื่องวันหยุดด้วย
การรู้ว่าจะเดินทางเมื่อไหร่สำคัญมากพอๆ กับการรู้ว่าจะซื้อตั๋วเมื่อไหร่ เนื่องจากตัวแปรที่สำคัญมากที่สุดที่ส่งผลต่อราคาเที่ยวบินใดเที่ยวบินหนึ่งนั้นคือ เที่ยวบินนั้นคนเยอะแค่ไหน มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ค่าเดินทางระหว่างช่วงวันหยุดยาวในฤดูใบไม้ผลิ, ช่วงวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้า หรือช่วงคริสต์มาสจะแพงกว่าปกติ ในทำนองเดียวกัน ปลายทางบางที่ โดยเฉพาะต่างประเทศ เหมาะจะเที่ยวชมได้แค่เป็นบางช่วงของปี ดังนั้นคุณควรศึกษาช่วงโลว์ซีซั่นกับพีคซีซั่นของสถานที่ที่คุณสนใจจะไปเที่ยวด้วย เช่น หากจะไปยุโรป ก็จะเจอราคาดีๆในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมอันเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งหากคุณอยากไปช่วงฤดูร้อนล่ะก็ ต้องจ่ายแพงขึ้นสูงสุดถึงสองเท่าเลยทีเดียว หากคุณอยากไปเที่ยวสถานที่ที่เป็นที่นิยมสูงในช่วงเวลายอดนิยม คุณก็ยิ่งต้องจองตั๋วแต่เนิ่นๆ เพราะค่าตั๋วที่ลดราคานั้นมักจะขายหมดอย่างรวดเร็ว

5. ผสมผสานสายการบินเพื่อให้ได้เที่ยวบินที่ถูกที่สุด
CheapAir.com มีฟีเจอร์ Mix & Match ที่ช่วยให้คุณเลือกผสมตั๋วเดินทางแบบเที่ยวเดียว 2 ใบ ไป-กลับ ที่อาจจะเป็นสายการบินเดียวกันหรือไม่ก็ได้ ทางเลือก Mix & Match จะเหมาะมากเมื่อ

1. ค่าตั๋วที่คุ้มสุดเท่าที่จะหาได้สำหรับการเดินทางครั้งหนึ่งคือ ต้องเดินทางโดยสายการบินหนึ่งสำหรับขาไป และเดินทางโดยอีกสายการบินหนึ่งสำหรับขากลับ หรือ
2. สายการบินที่มีเที่ยวบินขาออกสะดวกสุดไม่มีเที่ยวบินขากลับที่สะดวกเหมือนกัน หรือในทางกลับกัน

6. สมัครลงทะเบียนบริการแจ้งเตือนค่าตั๋วและติดตามเส้นทางการบิน
สมัคร CheapAir FareTracker alerts เพื่อช่วยให้สามารถจับตามองแนวโน้มค่าเดินทาง คุณจะได้รับการแจ้งเตือนรวดเร็วมากขึ้นเมื่อมีการลดราคาและจะออกตัวได้ก่อนเมื่อมีการเปิดจองที่นั่งจำนวนจำกัด หากดำเนินการได้ไวตอนที่เริ่มมีการลดราคาค่าตั๋วจะทำให้คุณประหยัดเงินได้เยอะ

7. เตรียมการเรื่องค่าธรรมเนียมกระเป๋าเพิ่มเติม
สายการบินต่างสายก็มีนโยบายกระเป๋าเดินทางต่างกัน สายการบินส่วนมากจะคิดค่าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง และบางสายการบินคิดค่าสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องด้วย คุณควรคิดถึงเรื่องนี้ด้วยเมื่อจะตัดสินใจซื้อตั๋ว CheapAir ช่วยแบ่งเบาคุณได้ตามนี้ : เมื่อคุณเห็นรายการเที่ยวบินในเว็บของเรา ให้ใช้เม้าส์วางเหนือตัวเลือกใดก็ได้แล้วจะเห็นราคาค่ากระเป๋าของสายการบินนั้นๆ สำหรับบางสายการบิน เมื่อคุณซื้อตั๋ว คุณจะต้องชำระค่ากระเป๋าล่วงหน้าโดยเข้าไปที่เว็บไซต์ของสายการบินเพราะสายการบินอาจจะคิดเงินเพิ่มได้หากคุณรอจนไปถึงสนามบิน

8. ตรวจสอบสนามบินทางเลือก
หากมีสนามบินมากกว่า 1 แห่งที่อยู่ใกล้เมืองที่คุณอยู่หรือเมืองปลายทางที่คุณจะไป ให้ตรวจสอบสนามบินเหล่านั้นให้หมด ยิ่งคุณมีทางเลือกเรื่องสนามบินและวันเดินทางมากเท่าไร คุณก็ยิ่งมีโอกาสพบที่นั่งแบบลดราคาสุดๆ ได้มากเท่านั้น  CheapAir จะตรวจหาสนามบินใกล้ๆให้กับคุณโดยอัตโนมัติ (สนามบินซานฟรานซิสโกและโอ๊คแลนด์ สนามบินไมอามี่และฟอร์ทลอเดอร์เดล สนามบินนิวยอร์กและน้วก สนามบินวอชิงตันดีซีและบัลติมอร์) แต่หากคุณตั้งใจจะใช้ทางเลือกอื่น ก็ควรตรวจสอบและศึกษามันด้วย

9. หากไปเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ ให้แยกจ่าย
ฟังดูผิดธรรมชาตินะ เพราะยิ่งจำนวนคนเยอะเท่าไร ราคาก็ควรจะถูกลงสิ ใช่ไหม? แต่หลักการนี้ไม่จริงเสมอไปสำหรับสายการบิน  “ส่วนลดสำหรับหมู่คณะ” มีน้อยมาก เพราะสายการบินมักจะจำกัดจำนวนที่นั่งต่อเที่ยวบินที่เปิดขายในราคาต่ำสุด บางครั้งคุณอาจจะอดได้ราคาถูกเพียงเพราะจำนวนผู้โดยสารเยอะเกินไป  เช่น หากสายการบิน x เหลือที่นั่งราคา 100 ดอลล่าร์เพียง 2 ที่นั่ง ในขณะที่ที่นั่งอื่นๆ ราคา 150 ดอลล่าร์ หากคุณลองหาที่นั่งสำหรับ 4 คน คุณจะเจอราคา 150 ดอลล่าร์ แต่หากคุณหาที่นั่งสำหรับ 2 คนแทนล่ะก็ คุณจะสามารถซื้อตั๋วได้ในราคา 100 ดอลล่าร์ และจ่ายเพิ่มอีก 50 ดอลล่าร์สำหรับอีก 2 คนที่เหลือ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ที่ต้องทำแบบนี้? ก็ให้หาโดยระบุจำนวนคนให้หมดทั้งกลุ่มก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าเที่ยวบินนั้นๆมีที่นั่งเพียงพอที่จะไปได้หมดทุกคน แล้วจึงลองหาอีกครั้งโดยระบุจำนวนคนน้อยกว่าเดิม หากราคาของจำนวนคนที่น้อยกว่านั้นถูกกว่า ก็จงซื้อตั๋วสำหรับกลุ่มเล็ก แล้วค่อยระบุหาที่นั่งสำหรับคนที่เหลืออีกครั้ง จริงอยู่ว่าต้องมีขั้นตอนเพิ่มมากขึ้น แต่มันช่วยประหยัดเงินได้ล่ะน่า…

10. ซื้อตั๋วในเว็บที่เสนอราคาแบบมีเงินคืน
เอาล่ะ จะว่าหน้าไม่อายก็ว่าเถอะ แต่เราคิดว่ามันยุติธรรมดีเหมือนกัน โปรแกรม Price Drop Payback มันก็ง่ายๆ แบบนี้ : หากราคาสำหรับตารางเดินทางเดียวกันเกิดลดต่ำลงตอนไหนก็ตามก่อนที่คุณจะเดินทาง เราจะจ่ายคืนเงินส่วนต่างให้คุณโดยจ่ายเป็นเวาเชอร์สำหรับท่องเที่ยวสูงสุดถึง 100 ดอลล่าร์ต่อตั๋ว 1 ใบ!  เราภาคภูมิใจที่ได้เป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียวในสหรัฐฯ ที่เสนอมาตรการปกป้องผู้ซื้อแบบนี้ และเราหวังว่าโปรแกรมนี้จะช่วยให้ความมั่นใจในการซื้อให้กับคุณด้วย ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวของ CheapAir มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือคุณในการจองเที่ยวบิน และในการหาค่าเดินทางราคาถูกด้วย ขอให้ใช้เทคนิคเหล่านี้เป็นแนวทางจองตั๋วเครื่องบิน ว่าแต่คุณถูกใจข้อไหนมากที่สุด?



เครดิตข้อมูลจาก www.cheapair.com

Blog ที่เกี่ยวข้อง
Happy Birthday Melbourne!
ดูทั้งหมด
Webboard ที่เกี่ยวข้อง
ดูทั้งหมด

Social Network


 
Advertrising