Community Zone
ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนแล้วคิดจะกลับมาขอ Work and Holiday Visa
โดย : zgamez   (15 January 2014) จำนวนผู้เข้าชม 7485 คน

ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนแล้วคิดจะกลับมาขอ Work and Holiday Visa

หลังจากพลาดวีซ่า WAH มีน้องๆหลายๆคนเหมือนกันที่เลือกจะไปเรียนภาษาก่อนแล้วกลับมาต่อ WAH หรือบางคนอาจจะไปเรียนภาษา เรียนอย่างอื่นอยู่แล้วมารู้จักกับโครงการนี้ทีหลังเลยสงสัยกันต่างๆนาๆว่าถ้าเคยอยู่ออสเตรเลียด้วยวีซ่านักเรียนแล้วยังสามารถขอวีซ่า WAH นี้ได้อยู่หรือเปล่า?

ตอบก่อนให้สบายใจกันว่าได้ครับ ไม่มีข้อห้ามไว้ และผมก็เป็นคนนึงที่เคยไปเรียนภาษามาก่อนที่จะมาขอ WAH ทีหลัง
ข้อดีของการไปเรียนก่อนก็คือ เราได้รู้จักเพื่อนไว้ก่อนแล้ว ได้ทำความคุ้นเคยกับเมือง และได้เรียนได้พัฒนาภาษาก่อนที่จะถือ WAH ดังนั้นตอนเปลี่ยนวีซ่ามาถือ WAH ก็จะสบายขึ้นค่อนข้างเยอะในหลายๆแง่ครับ (ก็ภาษาสื่อสารได้ มีคอนเนคชัน และอาจจะมีงานแล้ว)

อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้วีซ่าผมแนะนำให้น้องๆที่กำลังเรียนอยู่และเตรียมกลับมาขอ WAH เตรียมตัวดังนี้ครับ

1) ผล IELTS : ภาษาอังกฤษที่ทางสถานทูตต้องการคือภาษาอังกฤษระดับเทียบเท่า IELTS 4.5
โดยผลที่ใช้แทน IELTS ได้จะเป็น TOEFL และการจบโปรแกรมอินเตอร์มาตามระยะเวลาที่กำหนด
ผลเรียนภาษาในออสเตรเลียหรือประเทศใดๆ ไม่ว่าจะเรียนในระดับ Advance หรือจบ EAP เข้ายูไหนได้ก็ตามไม่สามารถนำมาเทียบได้ครับ (แต่ไปสอบเองก็คงผ่านอยู่แล้ว)
หากไม่มีผลดังกล่าวก็แนะนำว่าควรเตรียมตัวสอบ IELTS กันครับ
อย่างที่ได้อธิบายไปในบทความนี้
WAH 2014 - When should you take IELTS?
ว่าควรจะต้องสอบให้ได้ผลก่อนเดือนไหน อย่างไร
สำหรับคนที่อยู่ต่างประเทศก็เหมือนกันครับ
ข้อดีของการสอบในออสเตรเลียคือ General Training จะเปิดให้สอบบ่อยกว่า
ข้อเสียคือค่าสอบตอนนี้แพงหูตูบ ตอนนี้อยู่ที่ 330 AUD เข้าไปแล้วครับ (15/1/2014) เรียกว่าแพงกว่าที่ไทยราวๆ เกือบ 4,000 บาท
สำหรับที่สอบ IELTS ในออสเตรเลีย สามารถตรวจสอบได้ที่นี่ครับ IELTS Test Centres - Australia

2) Your Immigration History : วีซ่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ประวัติการเข้าออกประเทศของเราก็เป็นส่วนนึงที่เค้านำมาพิจารณาด้วยเช่นกันครับ ดังนั้นเหมือนที่เคยบอกเสมอว่าวีซ่ามีกติกาอะไร เราก็ต้องปฎิบัติตามครับ ถ้าเราถือวีซ่านักเรียนก็ให้ทำให้ตามคอนดิชันที่กำหนดไว้ ซึ่งโดยหลักๆแล้วคือ

2.1 เข้าเรียนตามกำหนด : โดยเฉพาะนักเรียนภาษาที่ห้ามเข้าเรียนน้อยกว่า 80% การที่ attendance เราต่ำก็มีผลต่อการพิจารณาวีซ่าในภายหลังได้ครับ (ไม่ว่าจะคิดขอ WAH หรือต่อวีซ่านักเรียนก็ตาม)
2.2 การทำงาน : ไม่ทำงานเกิน 40 ชม. ต่อ 2 weeks ตามที่ Immigration กำหนดไว้
2.3 ทำตามข้อบังคับอื่นๆ เช่น เมื่อย้ายที่อยู่ให้แจ้งรร.ภายใน 7 วัน เป็นต้น

3) ติดตามข่าวสาร : โดยเฉพาะเรื่องวันกดโควตา WAH
อย่างที่อาจจะพอทราบกันแล้วว่าโครงการนี้คนขอเยอะมากและเต็มเร็วมาก (ปี 2013 – 550 คนเต็มใน 1 ชม.) ดังนั้นเราควรจะรู้และเตรียมพร้อมก่อนว่ากดโควต้าเมื่อไหร่อย่างไร
4) ศึกษาข้อมูล : อ่านและเซฟบทความในกระทู้นี้ไว้

สนใจโครงการ Work and Holiday 2014 ทำยังไงดี ยังไม่มีข้อมูลเลย? อ่านตรงนี้ก่อนครับ

เพราะมีทั้งข้อมูลเบื้องต้นที่ควรทราบ เปรียบเทียบ wah กับ student visas, ขั้นตอนการยื่นวีซ่าออนไลน์ (จากของจริง) , ขั้นตอนการยื่นวีซ่า ไว้ให้แบบละเอียดครับ

5) หลักฐานการเงิน : ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เตรียมไว้ให้พร้อมโดยอ่านจากขั้นตอนการยื่นวีซ่าในบทความข้างต้น
6) แผนสำรอง : เราสามารถกดโควตาในขณะที่อยู่ในออสเตรเลียได้ (ขั้นตอนอยู่ในกระทู้ที่ให้ไว้ก่อนหน้า) แต่ไม่สามารถขอ WAH ที่ออสเตรเลียได้
เพราะยังไงก็ต้องมาสัมภาษณ์กับสท.ที่ไทย ดังนั้นวางแผนการกลับดีๆด้วยหากกดโควตาได้ และเผื่อไว้ด้วยว่าหากกดโควตา(ที่กดมหายาก) ไม่ได้จะทำอย่างไรต่อ คือมีแผนสำรองไว้ด้วย


สำหรับเรื่องวีซ่านี่ คำว่า “เกินดีกว่าขาด” ใช้ได้ดีเสมอครับ โดยเฉพาะกับสถานการณ์ที่คนสนใจโควตาเยอะๆแบบ Work and Holiday ยังไงขอให้โชคดีกันนะครับ : )

Social Network


 
Advertrising