ข่าวสาร >
2017
July
18
น้องแนตตี้ จากเด็กสาวชอบการกิน สู่การเรียนทำอาหารที่ออสเตรเลีย
โดย : Adminstrator ( จำนวนผู้เข้าชม 7189 คน )

 

ในยุคที่คนชอบแชร์รูปอาหาร และมีรีวิวร้านอาหารเต็ม facebook ไปหมด ทำให้การตามไปชิมเมนูเด็ด ร้านดังไม่ยากอีกต่อไป แต่จะมีสักกี่คนที่ชื่นชอบในการกินอาหาร และเลือกที่เดินตาม passion นั้น Thai WAH club พาไปทำความรู้จักกับสาวน้อยคนนี้ค่ะ น้องแนตตี้ พัชมณ กันทะวัง

สวัสดีค่ะน้องแนตตี้ ก่อนที่จะตัดสินใจมาเรียนที่ออสเตรเลียทำอะไรมาก่อนคะ?

ก่อนมาออสเตรเลียชีวิตก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลยค่ะ เป็นเด็กนักเรียนม.ปลายคนนึงที่ใช้ชีวิตแบบโฟกัสแค่เรื่องเรียน กับเรื่องกินเป็นหลัก (หัวเราะ)
ใช้ชีวิตแบบ slow life มากเลยค่ะ ไม่ต้องเคร่งอ่านหนังสือหรือเรียนพิเศษหนักๆเพื่อที่จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบเพื่อน ก็มีเรียนพิเศษบ้างแค่คณิตศาสตร์กับภาษาอังกฤษเพราะว่าเรียนศิลป์คำนวณเลยต้องเคร่งสองวิชานี้นิดนึง

นอกเหนือจากนั้นเวลาที่ว่างหลังเลิกเรียนก็จะเป็นการหาร้านอาหาร ที่ไหนดีที่ไหนเด็ดอยากกินก็ชวนเพื่อนชวนแม่ วนอยู่แบบนี้แหละค่ะ
จนจบม.ปลาย แล้วก็บินมาใช้ชีวิตที่นี่ หลังจากนั้นชีวิตก็เปลี่ยนไปเลยค่ะ

 

 

 

Thaiwahclub:  น้องแนตตี้มาในวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของชีวิต ช่วงแรกในการอยู่ที่นี่ปรับตัวยากไหม

ยากค่ะ ชีวิตที่เคยอยู่ไทยก็คืออยู่บ้านกับแม่ค่ะ หน้าที่หลักที่เน้นก็แค่ให้ตั้งใจเรียน ก็เลยรู้สึกว่าการที่ต้องมาอยู่คนเดียวและรับผิดชอบทุกอย่างด้วยตัวเองเป็นเรื่องใหญ่ แต่โชคดีที่หนูมีแม่เป็นที่ปรึกษา จำได้ว่าช่วงแรกที่มาถึงหนูไม่เป็นอันจะทำอะไรเลย ข้าวปลาไม่กิน เอาแต่ร้องไห้จะกลับบ้าน video call กับแม่ แม่ก็ร้องด้วยเพราะสงสารแต่ก็ไม่ให้กลับนะคะ (หัวเราะ)
เป็นแบบนี้เกือบเดือนเลยค่ะกว่าจะดีขึ้น พอดีขึ้นถึงได้เริ่มออกมาเดินเล่นชมเมืองและพบปะผู้คน เรื่องภาษาช่วงแรกก็เป็นปัญหาอยู่เหมือนกันค่ะ ฟังไม่ทัน (หัวเราะ)
แต่ก็ไม่ได้ห่วงอะไรนะคะ เพราะลงเรียนภาษามาตั้ง10เดือน ก็อาศัยการเรียนและกิจกรรมที่ได้ทำในห้องนี่แหละค่ะ ให้ช่วยพัฒนาทักษะด้านต่างๆให้ดีขึ้น

 

 

 

Thaiwahclub:  ปัจจุบันชีวิตในออสเตรเลียน้องแนตตี้ทำอะไรบ้างคะ?

ตอนนี้เรียนเป็นหลักค่ะ เรียน hospitality สาขา commercial cookery ก็คือเกี่ยวกับการทำอาหารโดยตรงเลย แล้วก็มีทำงานพาร์ทไทม์ด้วยช่วงหลังเลิกเรียนวันที่ว่างไม่มีเรียน

 

 

Thaiwahclub: ทำไมถึงเลือกเรียนทำอาหารคะ?

ง่ายๆเลยค่ะ คือชอบ(กิน) รู้สึกว่าตัวเองสนใจทุกอย่างเลยค่ะที่เกี่ยวกับอาหาร  อย่างตอนอยู่ไทยเห็นร้านไหนรีวิวดีๆไม่เคยพลาดเลยค่ะ
หรือเมนูไหนที่เห็นแล้วอยากกินก็มีลองซื้อวัตถุดิบมาทำเอง กินได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็มีความสุขดีค่ะ  
ช่วงเวลาม.ปลายที่เพื่อนๆต่างทุ่มเทให้กับการเรียนพิเศษและอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย หนูคงเป็นคนเดียวที่ไปลงเรียนคอร์สทำอาหาร รู้สึกว่ามันสนุกมากเลยค่ะ พอจบคอร์สเรียนภาษาแล้วต้องคิดว่าจะเรียนอะไรต่อ เลยไม่ลังเลเลยที่จะเลือกเรียนสาขานี้ 


 

Thaiwahclub:  เห็นว่าทำงานพาร์ทไทม์ด้วย น้องแนตตี้รู้สึกยากไหมคะ สำหรับคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

หลังจากปรับตัวได้ ก็เริ่มสมัครงานค่ะ สมัครเยอะมาก เป็นงานเกี่ยวกับร้านอาหารทั้งหมด บางที่ให้ไปแค่สัมภาษณ์แต่ก็ไม่ได้งาน ส่วนงานแรกที่ได้เป็นร้านอาหารไทย take away เล็กๆที่อยู่นอกเมืองค่ะ ได้ทำ entree ควบคู่ไปกับพนักงานเสริฟ งานไม่ยากเลย อย่างentreeก็คือลงของทอด รอให้สุกแล้วก็เอาใส่กล่องแค่นั้นเอง ส่วนงานเสริฟ ด้วยความที่เป็นร้านtake away ก็เลยมีโต๊ะให้ลูกค้านั่งกินแค่ไม่กี่โต๊ะ แล้วก็เสริฟแบบไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมาก จำได้เลยว่าเงินก้อนแรกที่ได้มาจากการทำงานเองครั้งแรกในชีวิตคือ $40 ตอนนั้นกลับบ้านมารีบโทรหาแม่ ดีใจมากค่ะเพราะไม่คิดว่าจะหาเงินเองได้ แต่อยู่ไปซักพักถึงได้รู้ว่าเงินจำนวนนั้นมันยังไม่ถึงครึ่งของค่าแรงขั้นต่ำที่ควรจะได้ด้วยซ้ำ คิดแล้วยังขำตัวเองเลยค่ะ  (หัวเราะ) หลังจากนั้นก็เปลี่ยนงานเรื่อยๆ ทำเสริฟบ้าง ในครัวบ้างแล้วแต่โอกาส ช่วงแรกที่เริ่มทำงานก็ต้องปรับตัวเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะไม่เคยทำงานมาก่อนเลย ไม่มีความคล่องตัวเลยซักนิด แต่พอทำไปนานๆก็ค่อยๆเริ่มเรียนรู้ จากที่แต่ละร้านได้สอน จนทุกวันนี้ก็ถือว่าดีขึ้นเยอะเลยค่ะ

 

 

 

Thaiwahclub:  จากประสบการณ์ที่อยู่ออสเตรเลียมาสักพัก น้องแนตตี้อยากจะฝากอะไรกับคนที่กำลังตัดสินใจอยากจะมาเรียนที่นี่บ้างคะ?

อยากให้ทุกคนได้ลองค่ะ สำหรับหนูช่วงแรกที่ต้องปรับตัวก็จะเหนื่อยหน่อย ไม่ได้ทำอะไรเหนื่อยหรอก แต่เหนื่อยกับตัวเองเนี่ยแหละค่ะ เอะอะร้องไห้ แต่พอปรับตัวได้ แข็งแรงขึ้นทุกวันนี้ก็ไม่อยากกลับแล้วนะคะ (หัวเราะ) เพราะการมาอยู่ที่นี่ได้สอนหนูหลายอย่างมาก หลักๆเลยก็คือต้องมีความรับผิดชอบ ไม่มีใครคอยมาปลุกให้ตื่นไปโรงเรียน บอกให้อ่านหนังสือ บอกให้ทำการบ้าน หรือคอยบอกให้ใช้เงินแบบประหยัดหน่อย ทุกอย่างต้องคิดและรับผิดชอบเองให้ได้ ส่วนเรื่องเรียนถ้าใครอยากได้ภาษาแน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ผิดหวัง เพราะไม่ใช่แค่ได้เรียนเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น สภาพแวดล้อมที่นี่ก็บังคับให้ต้องพูดภาษาอังกฤษด้วยเหมือนกัน คือไม่ได้ก็ต้องได้ค่ะ (หัวเราะ)