ข่าวสาร >
2019
September
17
รีวิวและคำแนะนำการสอบ IELTS ให้ได้ band 8.0
โดย : Adminstrator ( จำนวนผู้เข้าชม 7409 คน )

 

     รีวิวการสอบ IELTS ให้ได้คะแนน 8.0 ทุก band และทำไมการได้ 8.0 ในแต่ละ band ถึงยาก พร้อมคำแนะนำที่จะช่วยให้สอบ IELTS ได้ band ที่ตั้งใจ 

     จากการที่ได้ไปสอบ IELTS แบบ General Training (GT) รอบเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในบทความนี้จะมารีวิวข้อสอบพร้อมคำแนะนำสำหรับการสอบให้ได้ band ตามที่คาดหวังกัน

     ในรอบที่ไปสอบมานั้นได้ลองสอบแบบ Computer-delivered (สอบด้วยคอมพิวเตอร์) ซึ่งจะได้ผลสอบเร็วกว่าสอบแบบกระดาษประมาณ 5-7 วัน และยังเลือกเวลาสอบ Speaking ได้เองด้วย อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ ‘การสอบ IELTS ด้วยระบบ Computer-delivered’ 

     พูดถึงการสอบ IELTS ให้ได้ band 8.0 ซึ่งเป็น band ที่ใครๆต่างก็ว่ายาก และยังต้องใช้เวลาฝึกฝนพอสมควร โดยเฉพาะการสอบให้ได้ 8.0 ทุก band ข้างล่างนี้จะมาให้คำแนะนำในแต่ละพาร์ทกันเลย

 

Listening & Reading

     สองพาร์ทนี้ถือเป็นพาร์ทที่ฝึกได้เองง่ายที่สุดแล้ว ส่วนมากจะได้จากการสะสมทักษะภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน เช่น การดูหนังดูซีรี่ส์ที่เป็นเสียงซาวด์แทร็ค ฟังเพลงสากล ฟังข่าวและอ่านข่าวที่เป็นภาษาอังกฤษ กิจกรรมเหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการทำคะแนนของทั้งสองพาร์ทได้

     สิ่งที่จะยากของการทำข้อสอบสองพาร์ทนี้หากอยากได้ band สูงๆ คือเราสามารถทำพลาดได้น้อยมากๆ เพราะจากคะแนนเต็ม 40 คะแนนจะแปลงเป็น band score ได้ดังนี้

ตัวอย่างการแปลงคะแนนของ Listening band score

39-40 คะแนน = 9

37-38 คะแนน = 8.5

35-36 คะแนน = 8.0

     ส่วนข้อสอบพาร์ท Reading ของ General Training (GT) จะง่ายกว่าแบบ Academic (AC) พอสมควร ด้วยเนื้อหาของข้อสอบ AC จะมีความวิชาการมากกกว่า คำศัพท์ก็จะมีความยากกว่า แต่เกณฑ์การให้คะแนนของ GT ก็จะโหดกว่าของ GT เช่นกัน พูดง่ายๆคือต้องทำคะแนนให้ได้สูงกว่า เพื่อให้ได้ band score ที่เท่ากัน

ตัวอย่างการแปลงคะแนนของ Reading GT band score

40 = 9.0

39 = 8.5

37-38 = 8.0

ตัวอย่างการแปลงคะแนนของ Reading AC band score

39-40 = 9.0

37-38 = 8.5

35-36 = 8.0

 

Writing

     ข้อสอบพาร์ท Writing ถือเป็นอีกพาร์ทที่ยากที่สุดสำหรับใครหลายๆคน ซึ่งคนที่ฝึกเองโดยไม่ได้สมัครคอร์สเรียนเพิ่มเติม แนะนำให้หาคนที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อสอบ IELTS ดีในการช่วยตรวจข้อสอบ

     อีกหนึ่งช่องทางคือการใช้บริการตรวจข้อสอบจากเว็บไซต์ต่างๆ หรือจากทาง IDP Australia เองเขาก็มีตรวจผ่าน IELTS Progress Check ให้เช่นกัน

     ถ้าบริการจากเว็บไซต์แนะนำ IELTS Online Tests (IoT) เป็นเว็บไซต์ที่ให้ลองทำข้อสอบ IELTS พาร์ท Reading และ Listening ได้ฟรี อีกทั้งมีบริการตรวจข้อสอบ Writing และ Speaking พร้อมกับประเมินคะแนนให้ด้วย

     หากสนใจสามารถอ่าน รีวิวการใช้เว็บไซต์ช่วยตรวจข้อสอบ IELTS พาร์ท Writing ก่อนได้

     กลับเข้าเรื่องข้อสอบ IELTS ที่ได้ไปสอบมาล่าสุดมีคำถามของทั้ง 2 Task ดังนี้คือ

     Task 1 : ให้เขียนจดหมายหาเพื่อน โดยอธิบายประมาณว่าเรามีตั๋วคอนเสิร์ตจะให้เพื่อน ให้เราบอกรายละเอียดเกี่ยวกับคอนเสิร์ต เหตุผลที่เราไปไม่ได้ และบอกว่าจะรับตั๋วได้ที่ไหน

     Task 2 : ในส่วนที่สองของข้อสอบเขาจะเน้นให้เราวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นมากกว่า โดยไม่ได้เน้นที่ fact หรือความถูกต้อง โดยโจทย์ที่ไปสอบมาเป็นแบบ ‘Agree or disagree’ ให้แสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่เด็กๆทุกคนจะต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างในเวลาว่าง เพราะจะช่วยพัฒนาให้ทั้งตัวเด็กเองและสังคมดีขึ้น

 

     ข้อแนะนำที่สำคัญเลยสำหรับข้อสอบพาร์ท Writing คือการใช้คำศัพท์ที่หลากหลายและมีความถูกต้อง รวมถึงโครงสร้างประโยคและแกรมม่าก็มีผลกับคะแนนเช่นกัน

     นอกจากนี้ควรเขียนเรื่องให้ขยายความได้เยอะที่สุด เนื้อหาสามารถลิงค์กันได้ทั้ง essay เมื่ออ่านภาพรวมแล้วสามารถเข้าใจได้ดี

     Task 2 เป็นส่วนที่มีคะแนนเยอะกว่า ควรจะให้เวลากับส่วนนี้มากกว่า Task 1 ซึ่งประเภทโจทย์ของ Task 2 จะมีหลากหลาย เช่น Agree or Disagree, Outweigh, Problem and Solutions, Advantage and Disadvantages เป็นต้น

     ส่วนหัวข้อของ Task 2 ก็มีหลากหลายเช่นกัน ดังนั้นการฝึกเขียนให้เยอะๆจึงจำเป็นมาก จะทำให้เราได้เจอหัวข้อและโจทย์ที่หลากหลายมากขึ้น

 

Speaking

     สำหรับพาร์ทสอบพูดให้พยายามนึกตามว่าถ้าเราเป็น Native speaker จะพูดหรือตอบคำถามว่ายังไง แนะนำให้ใช้ภาษาพูด (colloquial) และใช้สำนวน (idiomatic) ในการพูดด้วย 

     การพูดแบบ structured หรือพูดแบบภาษาเขียนมากเกินไป ไม่ได้หมายความว่าจะยิ่งทำให้เราได้คะแนนเยอะขึ้น ควรพูดให้มีความเป็นธรรมชาติจะดีกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความคล่องในการพูดภาษาอังกฤษของแต่ละคนด้วย

     อีกสิ่งหนึ่งที่มีคนกังวลกันมากคือการไม่คุ้นชินกับหัวข้อที่ได้แล้วไม่รู้จะพูดอะไร ต้องบอกก่อนว่า Examiner ไม่ได้ดูความถูกต้องของเนื้อหาว่าจริงไหม เพราะสิ่งที่สนใจจริงๆ คือทักษะการพูดภาษาอังกฤษของเราไม่ว่าจะเป็น Vocaburary, Grammar, Idiom, Pronunciation, Fluency, การจัดเรียงเนื้อหาที่พูดและอื่นๆ

     ดังนั้นความสำคัญของพาร์ทนี้คือต้องไม่มาคิดว่า โห เรื่องนี้ยากจัง ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้เลยแล้วกลายเป็นไม่ตอบ

     อย่างเช่นในรอบที่ไปสอบมาได้หัวข้อที่ว่า ‘Describe an interesting conversation you had’ ให้อธิบายถึงบทสทนาที่น่าสนใจที่ผ่านมาแล้วของเราเอง

     ซึ่งที่เราต้องทำคือขยายเรื่องให้ได้ว่าเราคุยกับใคร คุยที่ไหน คุยเรื่องอะไร และทำไมถึงคิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจ โดยหากนึกคำตอบไม่ออกแล้วเราจะนึกเรื่องขึ้นมาเลยก็ไม่ผิดอะไร เพราะ Examiner จะเน้นที่การใช้ภาษาของเรามากกว่า

 

     จริงๆแล้วการสอบ IELTS ให้ได้ band 8.0 ถือว่ายากแล้ว แต่การสอบให้ได้ 8.0 ทุก band ถือว่ายากกว่า เพราะเราแทบจะพลาดตอนไหนไม่ได้เลย

     สรุปก็คือเราควรฝึกฝนให้มากๆในทุกพาร์ท หมั่นใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และแนะนำให้ใช้บริการ professional หรือเว็บไซต์ในการช่วยพาร์ทตรวจข้อสอบพาร์ท Writing และ Speaking

 

     ตอนนี้เองทาง Thaiwahclub และ Beyond Study Center กำลังเปิดคอร์ส IELTS Foundation - October 2019 อยู่ด้วย เป็นการสอนพื้นฐานการทำข้อสอบ IELTS ทั้ง 4 พาร์ท เน้นสิ่งที่จำเป็นในการสอบและการหัดทำข้อสอบ

     หากใครสนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ที่ แบบฟอร์ม IELTS Foundation - October 2019 หรือสอบถามเพิ่มเติมทาง LINE@ : @beyondstudy เบอร์โทร 065-885-6830 และ 02-019-0884 ภายในเวลาทำการ (Mon-Fri : 09.00-18.00)