ข่าวสาร >
2019
May
7
ขั้นตอนการสมัคร WAH/WHS 2018 (Online)
โดย : Adminstrator ( จำนวนผู้เข้าชม 65237 คน )

 

ขั้นตอนการสมัคร WAH/WHS 2018(Online)

 เราจะแบ่งโครงการ Working Holiday ออกเป็นสองโครงการคือ Work and Holiday Australia (WAH) และ Working Holiday Scheme New Zealand (WHS) โดยทั้งสองโครงการจะมีกำหนดการต่างกันเล็กน้อยดังรายละเอียดด้านล่างครับ

 

Work and Holiday Australia 2018

กรมกิจการเด็กและเยาวชน หรือ ดย.เปิดรับโควต้าเพื่อให้ขอใบรับรองคุณสมบัติจำนวน 800 คนซึ่งมากกว่าโควต้าของ Work and Holiday Australia ของทางสถานทูตอยู่ 300 คน (Quota ของสถานทูตออส = 500) 

 เหตุผลที่ดย.ให้โควต้ามากกว่าสถานทูต

จาก 800 คนนั้น ใช่ว่าจะได้ไปทุกคน (แต่ถ้าไม่อยู่ใน 800 คนนี้ก็มีไม่สิทธิ์ขอ WAH)
สำหรับ Work and Holiday Australia ปีนี้ จะแบ่งออกเป็นตัวจริงและตัวสำรองโดยมีรายละเอียดดังนี้

1 ถ้ากดโควต้าได้แล้ว จะมีเลขลำดับปรากฎที่ใบสมัครด้วย ถ้าเลขนั้นเป็น 1-500 จะเป็นตัวจริง 

2 สำหรับลำดับที่ 501-550  (ซึ่งในกรณีที่ผู้สมัครที่มีลำดับ 1-500 สละสิทธิ์ หรือไม่ผ่านคุณสมบัติ ก็จะถูกเลื่อนขึ้นมาเป็นตัวจริง คือจะทราบผลในวันนั้น)

3 โควต้าลำดับที่ 551-800 จะต้องรอประกาศเรียกจากทาง website ดย.อีกทีครับ

 

ตัวอย่างสถานการณ์ ถ้าเรียก 500 คนแรกไป ปรากฎว่า 20 คน ไม่ผ่านเพราะคุณสมบัติไม่ครบ ผู้สมัครลำดับ 501-520 ก็จะมาแทนได้เลย 

(ดังนั้นทาง ดย. จึงแนะนำว่าการกรอกรายละเอียดในฟอร์มออนไลน์ ควรจะกรอกให้ครบถ้วน เพราะเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้สมัครเอง)

 

Working Holiday Scheme New Zealand 2018

สำหรับของทาง New Zealand ดย.เปิดรับอีก 150 คน (Quota ของสถานทูตนิวซีแลนด์ = 100)

สำหรับนิวซีแลนด์โควต้าจะเป็นตัวจริงทั้งหมดครับ 

**ทั้งนี้เราไม่สามารถขอใบรับรองสำหรับทั้งสองประเทศพร้อมกันในปีเดียวได้ครับ ถ้าใครทำแล้วดย.เค้าตรวจเจอจะถูกตัดสิทธิ์ทั้งสองโครงการไปเลยครับ ดังนั้นต้องตัดสินใจให้ดีๆก่อนสมัครครับว่าจะไปไหน**

 

กำหนดการการขอโควต้าออนไลน์
การสมัครออนไลน์ของปี 2018 นี้จะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ

1) New Zealand Working Holiday Scheme : วันที่ 25 พฤษภาคม 2018

2) Australia Work and Holiday Visa : วันที่ 1 มิถุนายน 2018

โดย ดย.จะเปิดให้สมัครออนไลน์ตั้งแต่ 9.00น.ในแต่ละรอบโดยจะปิดรับทันทีที่ได้ผู้สมัครครบ 800 คนสำหรับ Australia และ 150 คนสำหรับ New Zealand ครับ

 

โควต้าเต็มเร็วมากนะครับ ดังนั้นเตรียมตัวดีๆ อ่านการ์ตูนเกี่ยวกับเรื่องโควต้าได้ที่
กดโควต้า WAH/WHS ยากแค่ไหน?

การทดลองกดโควต้า
ทางดย.มีประกาศว่าจะการทดลองให้ลองกดโควต้าด้วย คือจะได้ประโยชน์กับทางผู้สมัครเองเยอะ ทั้งที่ว่าจะคุ้นชินกับระบบ และดย.จะนำข้อคิดเห็นไปปรับปรุงให้ได้

ปีนี้จะเปิดให้ทดลองกดกันในวันที่ 8 พค. 2018 เป็นต้นไปครับ

การสัมภาษณ์กับดย.

ผู้ที่จองคิวสัมภาษณ์ 550 คนแรกของออสเตรเลีย และ 150 คนของนิวซีแลนด์ ทันจะต้องเข้าสัมภาษณ์และตรวจเชคเอกสารกับทางดย.ด้วยตัวเองในวันที่

 

WAH Australia : 

วันที่ 16 June 2018 - หมายเลข 1-300

วันที่ 17 June 2018 - หมายเลข 301-500

วันที่ 17 June 2018 - หมายเลข 501-550 

(หมายเลข 551-800 รอดย.ประกาศเรียกเพิ่มเติม)

WHS New Zealand :

วันที่ 16 June 2018 - หมายเลข 1-150

 

การรับใบรับรองจากดย.

การรับใบรับรองสามารถทำได้ในวันที่ 2 July 2018 (ถ้าผ่านการพิจารณา)

เวลา 09.00 - 16.00 น. ณ ห้องบอลรูม โรงแรมอิสติน มักกะสัน (หากไม่มารับ จะถือว่าสละสิทธิ์)

และจะมีอายุถึงช่วงปลายปี 2018 (ต้องยื่นวีซ่าก่อนใบรับรองหมดอายุ)

 

ข้อควรทราบเพิ่มเติมจากทางดย.

1.  ผู้สมัครสามารถสมัครได้โครงการเดียวเท่านั้น หากตรวจสอบพบข้อมูลภายหลัง ว่าสมัครทั้งสองโครงการจะถูกตัดสิทธิ์ทั้งสองโครงการ (ถ้าสมัครโครงการแรกไม่ผ่าน แล้วไปสมัครโครงการที่สองแบบนั้นทำได้ครับ)

2.  หากตรวจสอบพบว่า ผู้สมัครมีเจตนากรอกข้อมูลเท็จ ดย. จะตัดสิทธ์ผู้สมัครทันที

3.  ดย. จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการสัมภาษณ์ พร้อมวัน เวลา ให้ทราบทางเว็บไซต์ดย.

4. การมีใบรับรองไม่ได้แปลว่าวีซ่าจะต้องผ่าน แต่จะยื่นวีซ่าได้จะต้องมีใบรับรองจากทางดย.ก่อน 
    การพิจารณาวีซ่าขึ้นอยู่กับทางสถานทูตออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์

กำหนดการการขอวีซ่า

Australia : สามารถขอได้เลยหลังจากได้รับใบรับรองเลย เพราะสถานทูตออสเตรเลียเริ่มนับโควต้าใหม่ทุกวันที 1 กค. ของทุกปี
** อย่างไรก็ตาม การได้รับใบรับรองไม่ได้แปลว่าได้วีซ่านะครับ** 

New Zealand : สำหรับของสถานทูตนิวซีแลนด์ เราเริ่มขอวีซ่าได้ตั้งแต่ 19 July 2018 เป็นต้นไป (10 am NZ Time)
อันนี้ 150 คนก็ต้องมาแย่งที่ 100 ที่กันอีกรอบครับ

หลักฐานและข้อมูลที่ต้องเตรียมในการสมัครออนไลน์

สำหรับทั้งสองโครงการ ปีหลังๆนี่จะดีตรงที่ไม่ต้องอัพโหลดไฟล์ใดๆ (ทั้ง IELTS / ใบจบอินเตอร์ หรือ รูปถ่าย) ระบบก็จะเร็วขึ้นพอสมควร

 

วิธีการสมัครผ่านระบบออนไลน์

1. เข้าหน้าเว็บกรมกิจการเด็กและเยาวชน http://dcy.go.th/webnew/main/ คลิ๊กเลือกแบนเนอร์โครงการ

 

หรือพิมพ์ url http://203.155.29.251/opp/home/ จะพบหน้าแรกดังภาพ

2. เมื่อ Click ข้อความตามที่แจ้งแล้วจะพบหน้าจอแสดงรายชื่อของโครงการที่เปิดรับสมัคร ดังภาพ

3. เมื่อ Click เลือกโครงการที่เปิดรับสมัครจะพบหน้าจอ ดังภาพ 

เมื่อระบุ “เลขประจำตัวประชาชน” ไม่ถูกต้องตามเลขจริงบนบัตรระบบจะแสดงข้อความเตือน ดังภาพ

 

หมายเหตุ : กรณีที่ระบุเลขประจำตัวประชาชนไม่ถูกต้องระบบจะไม่ยอมให้ผ่านไปบันทึกใบสมัครได้

4. เมื่อระบุ “เลขประจำตัวประชาชน” ถูกต้องระบบจะแสดงหน้าจอเพื่อให้ผู้สมัครยืนยันยอมรับข้อตกลง ดังภาพ 

5. เมื่อยืนยันยอมรับข้อตกลงแล้วจะพบหน้าจอสำหรับกรอกใบสมัคร ดังภาพ

6. เมื่อบันทึกข้อมูลใบสมัครเรียบร้อยแล้วจะพบหน้าจอแสดงสถานะการสมัคร ดังภาพ

7. ผู้สมัครต้องพิมพ์ใบสมัคร บันทึกข้อตกลง พร้อมทั้งกรอกข้อมูลเพิ่มเติมให้ครบถ้วนเพื่อใช้ในการแนบเอกสาร ส่งให้กับ ดย. กรณีที่ผู้สมัครได้รับการสัมภาษณ์แล้ว และต้องการเข้ามาตรวจสอบสถานะของตนเอง สามารถเข้ามาที่ หน้าจอเดิม ดังภาพ 

เมื่อระบุเลขประจำตัวประชาชนแล้ว จะพบหน้าจอแสดงสถานะการพิจารณา ดังภาพ 

 

โดยผู้สมัครสามารถเซฟมาปรินต์ทีหลัง หรือ login เข้าไปปรินต์ทีหลังได้ (แต่แนะนำให้เซฟไฟล์ไว้ก่อนครับ)

หน้าตาของใบสมัคร และ บันทึกข้อตกลง สามารถเข้าไปดูได้ในนี้ครับ (อยู่หน้าท้ายๆ) การสมัครออนไลน์ WAH/WHS 2018 - จากดย.

เมื่อกรอกข้อมูลและตรวจสอบเสร็จแล้ว ให้คลิก "บันทึกข้อมูล" ก็เป็นอันเสร็จครับ ระบบจะพาเรามาหน้านี้ เพื่อแสดงรายละเอียด

และบอกว่าเราได้ลำดับที่เท่าไหร่ โดยคอนเฟิร์มถึงรายละเอียดวันสัมภาษณ์ที่ได้กรอกไปด้วย

 

ขั้นตอนคร่าวๆไม่ยากอะไรครับ ที่ยากคือจองให้ทันกันนี่แหละ 

ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา นี่การกรอกข้อมูลน้อยลงกว่าปีก่อนๆเยอะ (2015 ราวๆ 16 ข้อ / 2014 ราวๆ 40 ข้อ และ 2018 ก็น่าจะไม่ต่างกันครับ) และไม่ต้องอัพโหลดไฟล์ด้วย ดังนั้นน่าจะสะดวกขึ้น

ยังไงขอให้ทุกคนโชคดีกับการกดโควต้าในปีนี้ครับ

 

ที่มา : http://dcy.go.th/webnew/main/news_view.php?id=2332&type=12


**Update** 8 May 2018

วันที่ 8 May 2018 ผมได้ร่วมทดลองระบบรอบแรกด้วย เลยสรุปให้ว่าข้อมูลต้องใช้อะไรบ้างครับ

แนะนำให้มีข้อมูลไว้ใน notepad ,Word พร้อมกด หรือพร้อมส่งให้เพื่อนครับ

 

1) เลขบัตรจำตัวประชาชน

2) คำนำหน้าชื่อ นาย นาง นางสาว...

3) ชื่อ

4) นามสกุล

5) Prefix (คำนำหน้าชื่อภาษาอังกฤษ) Mr., Miss, Ms.,Mrs.,..

6) First name (ชื่อจริงภาษาอังกฤษ)

7) Last name (นามสกุลภาษาอังกฤษ)

8) เพศ

9) drop down list : เชื้อชาติ

10) drop down list : สัญชาติ

11) drop down list : ศาสนา

12) วันเดือนปีเกิด : ระบุเป็น 01012530 (1 มค. 2530) / ช่องอายุจะเป็นการคำนวนอัตโนมัติจากวันเดือนปีเกิดที่กรอก

13) สถานภาพ : โสด , สมรส , หม้าย

14) โทรศัพท์มือถือ

15) อีเมลล์

16) สถาบัน (การศึกษาสูงสุดที่จบมา)

17) drop down list : วุฒิ : ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า , ปริญญาโทหรือเทียบเท่า, ปริญญาเอกหรือเทียบเท่า,สูงกว่าปริญญาเอก

18) ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ : ข้อนี้จะมีให้เลือกสองแบบ เลือกเพียงแค่ข้อเดียวนะครับ

18.1) ทดสอบภาษาอังกฤษ 

a) IELTS , TOEFL

b) ผลคะแนน (เช่น 5.0 - ดูจาก band รวม)

c) วันที่ผลออก (format ววดดปปปป) เช่น 26052560  : วันที่ผลออกดูจากวันที่ระบุไว้ด้านล่างในผลสอบนะครับ

d) วันที่หมดอายุ (format ววดดปปปป) : ดย.แจ้งว่าของออสให้กรอกว่า 1 ปีหลังวันสอบ / ของนิว 2 ปีหลังวันสอบครับ

(**ทั้งนี้ตรงนี้ทางดย.แจ้งว่าสุดท้ายดย.ดูจากวันหมดอายุเป็นหลักครับ การกรอกผิดเพราะไม่รู้ แต่ว่าผลยัง valid อยู่เป็นหลัก**)

18.2) หลักฐานการศึกษา

1. ใบรับรอง/ประกาศนียบัตร จากสถาบันที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน (หลักสูตรภาคปกติระดับอุดมศึกษา 2 ปี) - จบตรีอินเตอร์เลือกข้อนี้ครับ

2. หลักฐานจากโรงเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน (ระดับมัธยมศึกษา 5 ปี : 5 years of secondary)

3. หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary) และมัธยมศึกษาตอนต้น (3 years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน

19) บุคคลที่ดย.ติดต่อได้ฉุกเฉิน (ไม่มีดอกจัน)

คำนำหน้าชื่อ 

ชื่อ 

นามสกุล

ความสัมพันธ์ (drop down list : ครู ,ตนเอง,ผู้ปกครอง, ผู้ที่ติดต่อได้, คนรู้จัก, บุตรเขย etc) รายละเอียด

โทรศัพท์มือถือ 

 Email