วีซ่านักเรียน VS วีซ่า Work and Holiday แตกต่างกันอย่างไร?
โดย : Adminstrator ( จำนวนผู้เข้าชม 10406 คน )
หลายๆคนอาจมีข้อสงสัยว่าถ้าอยากไปออสเตรเลียควรจะไปด้วยวีซ่าประเภทไหนดี ซึ่งช้อยส์หลักๆก็มีวีซ่านักเรียน (Student Visa) และวีซ่า Work and Holiday แต่ทั้งสองตัวนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกสมัครวีซ่าแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง
สิ่งที่ควรจะคำนึงเป็นอันดับแรกๆเลยคือวัตถุประสงค์ในการไปออสเตรเลีย เพราะวีซ่าแต่ละประเภทก็ออกแบบมาสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไปอยู่แล้ว เราควรจะรู้ว่าเราไปด้วยเป้าหมายอะไร เช่น อยากไปเรียนปริญญาโท อยากไปเรียนภาษา อยากเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย หรืออยากทำงานอย่างเดียว เป็นต้น
หากยังไม่แน่ใจว่าต้องสมัครวีซ่าประเภทไหน ให้ลองตอบคำถามเบื้องต้นเหล่านี้ก่อน
- เป้าหมายหลักที่อยากไปออสเตรเลีย
- งบประมาณที่มีหรือคิดไว้ว่าจะใช้ในการไปออสเตรเลีย
- ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ เช่น คะแนน IELTS หรือเรียนจบจากหลักสูตรอินเตอร์มา
- ต้องการเดินทางไปออสเตรเลียช่วงไหน
- อายุ และระดับการศึกษาสูงสุดที่จบมา
- ใครเป็นผู้รับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายให้ (sponsor)
ตารางด้านล่างจะเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างวีซ่านักเรียนและวีซ่า Work and Holiday มากยิ่งขึ้น
(คลิกรูปเพื่อขยาย)
วีซ่านักเรียน
- อายุวีซ่า : ตามระยะเวลาคอร์สเรียน (บวกไปอีกนิดหน่อย)
- ช่วงเวลาที่ขอได้ : ขอได้ตลอดปี แต่จะขอล่วงหน้าได้ไม่เกิน 4 เดือนสำหรับวีซ่าแบบออนไลน์
- คุณสมบัติหลักๆ : ไม่ได้กำหนดเรื่องอายุ แต่ดูเรื่องความสมเหตุสมผลและหลักฐานการเงินตลอดจน background ของผู้สมัครเป็นหลัก คือต้องมีหลักฐานการเงินสนับสนุน โดยจะเป็นของผู้ปกครองก็ได้
- สิทธิในการทำงาน : 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ และ ทำได้ full-time ช่วงปิดเทอม
- วีซ่าติดตาม : ผู้ถือวีซ่าติดตามทำงานได้เท่ากับนักเรียน แต่ถ้านักเรียนปริญญาโทหรือปริญญาเอก ผู้ติดตามสามารถทำงานได้ full-time ตลอดเวลา
- ค่าใช้จ่าย : เรียนภาษาระยะเวลา 6 เดือน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ตั้งแต่ 1.5 แสนถึง 2.5 แสน แล้วแต่คุณภาพของสถาบัน ถ้าเรียนคอร์สปริญญาโทก็จะราคาสูงกว่านี้ แต่เงินก้อนแรกขึ้นอยู่กับระดับภาษาของนักเรียนด้วย เช่น ถ้าพื้นฐานภาษาดีก็อาจจะเรียนภาษาไม่นาน ช่วยให้ประหยัดกว่า เป็นต้น
- การไปเรียนต่อปริญญาโท สามารถสมัครเป็นแพ็คเกจกับคอร์สเรียนภาษา โดยชำระค่าเรียนภาษาและมัดจำค่าเรียนปริญญาโทได้ (ส่วนหนึ่งของเทอมแรก หรือทั้งเทอมขึ้นอยุ่กับเงื่อนไขของมหาวิทยาลัยนั้นๆ)
- การยื่นวีซ่า : ปัจจุบันสามารถยื่นวีซ่านักเรียนได้เฉพาะแบบออนไลน์เท่านั้น
- การต่อวีซ่า : ในกรณีที่ไม่ติดคอนดิชั่น ‘No Further Stay’ ก็สามารถขอต่อวีซ่าประเภทอื่นๆต่อได้ ซึ่งจะติดหรือไม่ติดคอนดิชั่นนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ที่ออกวีซ่า
- วีซ่าอื่นๆ ที่ขอได้หลังหมดวีซ่านักเรียน : Skilled Graudate 485 (ถ้าเรียนจบในออสเตรเลียในสาขาที่เป็นที่ต้องการ) / วีซ่าทำงาน Post Study Visa (ถ้าเรียนจบระดับปริญญาที่ระยะเวลาคอร์ส 2 ปีขึ้นไป ก็มีสิทธิ์ได้วีซ่าทำงานต่ออีก 2 ปี) / Other Student visas / Business Long Stay Visa (วีซ่าทำงาน ในกรณีที่นายจ้าง sponsor) / วีซ่าคู่สมรสและวีซ่าถาวรต่างๆ
วีซ่า Work and Holiday
- อายุวีซ่า : 1 ปี
- เวลาที่ขอวีซ่าได้ : จะแบ่งเป็นสองขั้นตอน คือขอใบรับรองจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน และหลังจากนั้นก็สามารถขอวีซ่าจากทางสถานฑูตได้ (สถานทูตนับโควต้าใหม่ตั้งแต่ 1 ก.ค.ของทุกปี)
- คุณสมบัติหลักๆ : ต้องมีคะแนน IELTS 4.5 ขึ้นไป / เรียนจบปริญญาตรีแล้ว / อายุไม่เกิน 31 ปีในวันขอวีซ่า / มีเงินในบัญชีออมทรัพย์ของตัวเองอย่างน้อย 5,000 AUD หรือประมาณ 120,000 บาท ในปัจจุบัน
- สิทธิในการทำงาน : ระยะเวลา 6 เดือนต่อ 1 นายจ้าง และไม่จำกัดชั่วโมงการทำงาน (สามารถต่อได้บ้างในบางกรณี อยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่)
- วีซ่าติดตาม : ไม่สามารถมีผู้ติดตามได้
- ค่าใช้จ่าย : ค่าวีซ่าและ VFS รวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นบาท นอกนั้นเป็นค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ เช่น ค่าตรวจสุขภาพ / ค่าสอบ IELTS / ตั๋วเครื่องบิน / pocket money
- การยื่นวีซ่า : ปัจจุบันสามารถยื่นวีซ่า Work and Holiday ได้เฉพาะแบบออนไลน์เท่านั้น ทางเว็บไซต์ของสถานฑูต
- การต่อวีซ่า : ในกรณีที่ไม่ติดคอนดิชั่น ‘No Further Stay’ ก็สามารถขอต่อวีซ่าประเภทอื่นๆต่อได้
- วีซ่าอื่นๆ ที่ขอได้หลังหมดวีซ่า Work and Holiday: Business Long Stay Visa / Other Student Visas / วีซ่าคู่สมรสและวีซ่าถาวรต่างๆ
สรุปแล้ววีซ่านักเรียนสำหรับคนที่ต้องการไปเรียนต่อเป็นหลักและสามารถทำงาน part-time ได้บ้าง ส่วนวีซ่า Work and Holiday สำหรับคนที่ต้องการไปทำงานและไปเที่ยวเป็นหลัก แต่ก็ยังพอเรียนได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ
หากสนใจปรึกษาเรื่องการทำวีซ่าสำหรับเรียนต่อ หรือขอคำแนะนำในการสมัครวีซ่า สามารถติดต่อทีม Beyond Study ได้ทาง LINE@ : @beyondstudy หรือเบอร์โทร 086-011-2378 และ 02-019-0884 ภายในเวลาทำการ (Mon-Fri : 09.00-18.00)