ทำความรู้จักกับระบบ Streamlined Student Visa Framework (SSVF) พร้อมข่าวดีเกี่ยวกับการจัดระดับความเสี่ยงของประเทศไทยครั้งล่าสุด
การปรับเลเวลความเสี่ยงของวีซ่านักเรียนออสเตรเลีย มีไปล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2020 โดยทางรัฐบาลออสเตรเลีย หรือ Department of Home Affairs ได้ทำการจัดอันดับความเสี่ยงของประเทศและสถาบันการศึกษาต่างๆ ในออสเตรเลีย

    ก่อนจะไปทราบถึงข่าวดี เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ SSVF กันก่อนดีกว่า

     ตั้งแต่กลางปี 2016 เป็นต้นมา ทางสถานฑูตออสเตรเลียได้เริ่มใช้ระบบวีซ่าที่เรียกว่า Streamlined Student Visa Framework (SSVF) โดยหนึ่งในสาระสำคัญสำหรับคนที่ต้องการไปเรียนต่อออสเตรเลีย คือ “Immigration Risk Rating” หรือ ระดับความเสี่ยงทางด้าน immigration ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

• ความเสี่ยงด้าน immigration ของประเทศผู้ขอวีซ่า (Country)
• ความเสี่ยงด้าน immigration ของสถาบันการศึกษาในออสเตรเลีย (Institution)

    จากตารางด้านบนนี้จะแบ่งความเสี่ยงของสถาบันการศึกษาเป็นแถบสีส้มด้านข้าง และความเสี่ยงของประเทศที่เป็นแถบสีฟ้า ซึ่งความเสี่ยงทั้งสองแบบจะแบ่งออกเป็น

• Level 1 : ความเสี่ยงน้อยสุด
• Level 2 : ความเสี่ยงปานกลาง
• Level 3 : ความเสี่ยงสูง

    ระดับความเสี่ยง Immigration Risk Rating นี้จะปรับกันทุกๆ หกเดือน ซึ่งจริงๆ แล้วประเทศในเลเวล 3 ไม่ได้หมายความการขอวีซ่าจะยากกว่า แต่หมายถึงเอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่าจะมีความซับซ้อนกว่า
    เนื่องจากการเลือกสถาบันจะพิจารณาจากความเสี่ยงของประเทศ และสถาบันที่เลือกเรียนรวมกัน ตามตารางของ Immigration Risk Rating นี้จึงจะแบ่งให้เห็นเป็น Streamlined และ Regular ซึ่งมีความหมายดังนี้

• Streamlined : ไม่ต้องยื่นหลักฐานทางการเงิน และผลคะแนน IELTS ประกอบการยื่นขอวีซ่า (แต่แนะนำให้ยื่นหลักฐานทางการเงินประกอบไปด้วยก็จะดีกว่า)
• Regular : จำเป็นจะต้องยื่นหลักฐานทางการเงิน และผลคะแนน IELTS ไปด้วย (ยกเว้นว่าเรียนคอร์สภาษาไม่ต้องยื่นคะแนน IELTS ก็ได้)

     ข่าวดีที่เราอยากแจ้งกันก็คือประเทศไทยได้ขยับขึ้นจากเลเวล 3 มาเป็นเลเวล 2 ในการจัดระดับความเสี่ยงครั้งล่าสุดแล้ว

     ดังนั้นนักเรียนไทยจะมีโอกาสในการเลือกสถาบันที่ต้องการเรียนมากขึ้น
     กล่าวคือจากเดิมที่ต้องเลือกเรียนสถาบันเลเวลหนึ่งเท่านั้นเพื่อให้เป็น Streamlined จากนี้เราก็สามารถเลือกเรียนได้ทั้งสถาบันเลเวลหนึ่งและสอง อย่างไรก็ตามยังสามารถเลือกเรียนสถาบันที่เป็นเลเวลสามได้อยู่นะ เพียงแต่ต้องเตรียมเอกสารมากขึ้นเท่านั้นเอง
 
    ในปัจจุบันมีสถาบันที่เป็นเลเวล 2 จำนวนมากกว่า 80% ของสถาบันทั้งหมดในออสเตรเลีย ดังนั้นนักเรียนไทยจะมีตัวเลือกในการสมัครเรียนเยอะขึ้น และสถาบันต่างๆ อาจมีการออกโปรโมชั่นเพื่อแข่งขันกันมากขึ้น แน่นอนว่านักเรียนจะได้รับประโยชน์จากตรงนี้ไปเต็มๆ

    หากใครสนใจอยากเช็คเลเวลของสถาบันการศึกษาที่กำลังมองๆไว้อยู่ หรือต้องการขอคำปรึกษาด้านการศึกษาต่อออสเตรเลีย สามารถติดต่อได้ทาง LINE ID : @beyondstudy