ข่าวสาร >
2020
November
26
Victoria เตรียมเสนอแผนเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศอีกครั้งหลังถูก COVID-19 ระบาดระลอกสอง
โดย : Adminstrator ( จำนวนผู้เข้าชม 1322 คน )


Image : www.theage.com.au

  รัฐ Victoria เตรียมเสนอแผนเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศที่จะบินตรงเข้าสู่ Melbourne พร้อมโรงแรมที่ใช้สำหรับการกักตัวอีกครั้ง โดยโครงการจะถูกรีเซ็ตใหม่เพื่อเริ่มใช้วันที่ 7 ธันวาคม 2020

  ก่อนหน้านี้รัฐ Victoria ได้มีโครงการเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศและโรงแรมสำหรับกักตัวชาวต่างชาติที่เดินทางมาถึง แต่โครงการนี้ต้องพับไปหลังเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกสองในเมือง Melbourne และจะเริ่มกลับมาใช้ใหม่หลังถูกระงับไปร่วม 5 เดือน

  ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 พ.ย. 2020) โฆษกจากรัฐบาลกลางกล่าวว่า รัฐ Victoria ได้ส่งคำร้องถึงนายกรัฐมนตรี Scott Morrison ยืนยันกำหนดการในวันที่ 7 ธันวาคม เรื่องอนุญาตให้ดำเนินการเกี่ยวกับโครงการสถานที่สำหรับกักกันนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในรัฐ Victoria เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมา

  รัฐบาลยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะใช้สถานที่ใดในการกักตัวในแผนโครงการใหม่นี้ อาจจะเป็นโรงแรมใจกลางเมือง Melbourne หรือ บ้านพักอาศัยสำหรับกักตัว

  คุณ Justice Coate นักกฎหมายชาวออสเตรเลีย ได้เสนอว่าโรงแรมหรือบ้านพักสำหรับกักตัว ซึ่งใช้รองรับชาวต่างชาติจากประเทศในกลุ่มความเสี่ยงต่ำนั้น ควรมีการมอนิเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ที่บ้านพักผ่านสมาร์ทโฟนหรือสายรัดข้อมือ ข้อเท้า เพื่อใช้ในการติดตาม

  นอกจากนี้ยังได้แนะนำเพิ่มเติมอีกว่าควรมีตำรวจที่เฝ้าสังเกตตลอด 24 ชั่วโมง และมีแผนควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

  ก่อนหน้านั้น Melbourne ได้เกิดแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกสอง ซึ่งช่วงที่ระบาดหนักสุดนั้นมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มถึง 725 คนเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นมีการประกาศเคอร์ฟิว ให้ประชาชนทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างต่อกัน และติดตามการเดินทางของประชาชน ทำให้สถานการณ์สามารถควบคุมได้ ในวันศุกร์ที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา มีรายงานว่า 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้รัฐ Victoria ไม่มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื่อ Covid-19 และไม่มียอดผู้เสียชีวิต

  นายกรัฐมนตรียังคงไม่สามารถให้คำตอบอย่างเป็นทางการได้ และรัฐบาลกล่าวว่าจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรีเซ็ตโครงการเที่ยวบินระหว่างประเทศและโรงแรมสำหรับกักตัวนักท่องเที่ยวในเร็วๆ นี้

 

Source:  theage.com.au