ข่าวสาร >
2021
May
31
Grattan Institute ชี้ ควรออกวีซ่าให้กับแรงงานทักษะที่อายุน้อยและควรเพิ่มค่าแรงด้วย
โดย : Adminstrator ( จำนวนผู้เข้าชม 1762 คน )

Grattan Institute เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายด้าน Immigration โดยรายงานว่าในปี 2019-2020 มีคนย้ายถิ่นฐานมาออสเตรเลีย 194,400 คน และในระยะเวลาหลายเดือนก่อนถึงเดือนมีนาคม 2020 มีคนประมาณ 2 ล้านคนเข้ามายังออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงชาวออสเตรเลียที่กลับมาบ้านเกิดและผู้ที่เข้าประเทศมาชั่วคราวด้วย

แต่หลังจากนั้น จำนวนคนที่มาออสเตรเลียกลับมีไม่ถึง 260,000 คน เฉลี่ยแล้วเดือนละ 23,000 คนเท่านั้น

ในรายงานของ Grattan ได้เปิดประเด็นว่า หากต้องการปรับปรุงธุรกิจ ทำให้เศรษฐกิจเติบโต และลดอัตราประชากรสูงอายุ ก็จะต้องหยุดรับผู้ย้ายถิ่นฐานที่อายุมากแต่ความรู้ภาษาอังกฤษน้อยเข้าประเทศ และแนะนำด้วยว่าควรจะต้องแก้ไขกระบวนการขอสปอนเซอร์ให้ง่ายขึ้นและให้นำแรงงานทักษะวัยหนุ่มสาวเข้าประเทศให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มค่าแรงให้คนเหล่านั้นด้วย

หากทำได้ตามนั้น ก็จะนับเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง แต่จะช่วยแรงงานทักษะดังกล่าวได้ รวมถึง Cem Deniz Sahin คนงานชาวตุรกีวัย 31 ปี ซึ่งมาออสเตรเลียครั้งแรกในปี 2016 พร้อมกับวุฒิปริญญาโทด้านวิศวกรรมเรขาคณิต แต่ต้องทำงานเป็นช่างแค่ให้พอใช้จ่ายได้ชนเดือน

“ผมมีเงินติดตัวมา 4,000 เหรียญ อยู่ได้แค่ 2 เดือน ผมบอกตัวเองว่า เอาล่ะ ต้องหางานแล้ว แต่กลายเป็นว่าผมมีคุณสมบัติสูงเกินไป ต้องใช้เวลาหางานในสายงานของผมอยู่เกือบปี”

คุณ Sahin ทำงานที่ได้เงินน้อยกว่าวุฒิ อย่างช่างปูน ช่างทาสี kitchen hand และบาริสต้า ก่อนที่จะหางานในสายของตนเองได้

“ตอนนั้นผมรู้สึกอ้างว้างมาก บางครั้งก็ร้องไห้ในห้องน้ำ ถามตัวเองว่า เราทำอะไรอยู่ เรามาที่นี่ทำไม มีช่วงเวลาที่รู้สึกแย่เยอะมาก แต่โชคดีที่ตอนนี้ฟื้นตัวขึ้นมาได้”

ปัจจุบันคุณ Sahin ทำงานกับ Auspat ในตำแหน่งนักสำรวจวิศวกรรมให้กับหลายโครงการ รวมถึงโครงการปรับปรุงทางด่วน Melbourne Monash ด้วย และทางนายจ้างก็มีทีท่าว่าจะสปอนเซอร์ให้เขาขอวีซ่าถาวรด้วย

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงทศวรรษที่ 1990 ซึ่งเป็นช่วงแรกของระบบการย้ายถิ่นเป็นจำนวนมาก มีการให้วีซ่าถาวรแก่คนย้ายถิ่นหน้าใหม่ที่มาถึงออสเตรเลีย

แต่ปัจจุบันมีการจำกัดจำนวนวีซ่าถาวรอยู่ที่ปีละ 160,000 คนลดลงจากปีละ 190,000 คน และรัฐบาลก็มีวีซ่าถาวรในด้านมนุษยชนอีกจำนวน 13,750 วีซ่าแยกออกมาด้วย

ในปี 2021-2022 วีซ่า permanent skilled migration มีจำนวน 79,600 ลดลงมาจากจำนวน 125,000 ที่ให้มาตั้งแต่ปี 2013-2018 แต่จะยังคงจำนวน 79,600 ตามเดิมสำหรับในปี 2021-2022 แต่จำนวนผู้ถือวีซ่าชั่วคราวในออสเตรเลียกลับเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจาก 500,000 คนในปี 2007 เป็น 1 ล้านคนในปัจจุบัน  

รายงานของ Grattan เรื่อง Rethinking Permanent Skilled Migration after the Pandemic (การทบทวนเรื่องการย้ายถิ่นถาวรของแรงงานทักษะหลังยุคโควิด) ได้มุ่งเน้นไปที่การคัดเลือกแรงงานทักษะให้ได้วีซ่าถาวร และมีข้อเสนอแนะอีกหลายข้อ รวมถึงเรียกร้องให้หยุดเน้นวีซ่า permanent skilled worker เพื่อหาแรงงานขาดแคลนผ่านทาง occupation list ได้แล้ว แต่ให้ไปออกวีซ่า employer-sponsored ให้กับแรงงานในทุกสายอาชีพแทน โดยแรงงานเหล่านั้นจะต้องมีรายได้อย่างน้อย 80,000 เหรียญต่อปี

ปัจจุบันออสเตรเลียมีวิธีการคัดเลือก permanent skilled worker 4 วิธีดังนี้

  • Points-tested skilled migration
  • Employer-nominated
  • Business innovation and investment
  • Global talent


ทาง Grattan Institute ได้แนะนำไว้ดังนี้

  • ให้ยกเลิกวีซ่า Business Investment and Innovation
  • ปรับลดจำนวนวีซ่า Global Talent และประเมินการให้วีซ่าอย่างอิสระ
  • หลีกเลี่ยงการมุ่งเน้นวีซ่า permanent skilled worker เพื่อหาแรงงานขาดแคลนผ่านทาง occupation list
  • ออกวีซ่า employer-sponsored ให้กับแรงงานในทุกสายอาชีพ โดยแรงงานเหล่านั้นจะต้องมีรายได้อย่างน้อย 80,000 เหรียญต่อปี
  • ให้มีการสั่งการทบทวนการออกวีซ่าแบบ​วัดผลทางคะแนน (points-tested) เพื่อคัดเลือกแรงงานทักษะอายุน้อยได้ดีมากขึ้น
  • ขอให้ Department of Home Affairs ปรับปรุงการบริหารจัดการวีซ่า permanent skilled workers และเร่งรัดกระบวนการออกวีซ่าให้เร็วขึ้น


ในผลการสำรวจผู้ย้ายถิ่นทางเศรษฐกิจในปี 2020 ออสเตรเลียเป็นประเทศจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดที่สุดเป็นอันดับ 3 ขึ้นมาจากอันดับ 4 ในปี 2018 ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จของออสเตรเลียในการจัดการโควิด เทียบกับประเทศอื่นๆอีกหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ แคนาดา เยอรมนี และสหราชอาณาจักร

โฆษกจาก Department of Home Affairs กล่าวว่าวีซ่าแรงงานทักษะในปัจจุบันนั้นถูกออกแบบมาให้ตอบสนองต่อความต้องการด้านเศรษฐกิจ ประชากร และตลาดแรงงานในประเทศ

และกล่าวว่า Alex Hawke รัฐมนตรี Immigration ได้ขอให้รัฐสภาพิจารณาปัญหาต่างๆเรื่องวีซ่าแรงงานทักษะซึ่งจะมีการพิจารณาข้อเสนอแนะในเดือนกรกฎาคมนี้

Damian Kassabgi หัวหน้าฝ่ายนโยบายของ Afterpay กล่าวว่าออสเตรเลียมีสถานภาพที่ดีต่อการดึงดูให้คนเข้ามาทำงาน ซึ่งต้องขอบคุณวิธีการที่ประเทศบริหารจัดการโควิด เขากล่าวว่า ประเทศได้เรียนรู้ 2 เรื่องจากโควิด เรื่องแรกคือ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในนิวยอร์ก ลอนดอน หรือซิลิกอนวัลเล่ย์ ถึงจะทำธุรกิจระดับโลกได้ สองคือ ทั่วโลกได้เห็นว่าออสเตรเลียจัดการโควิดได้อย่างปลอดภัย เศรษฐกิจก็ยังดีอยู่ และทำให้ประชาชนมั่นใจได้ด้วยว่ายังคงก้าวหน้าในอาชีพ

“แต่สิ่งหนึ่งที่ออสเตรเลียยังขาดอยู่ก็คือประสบการณ์ เรายังขาดผู้คนที่สร้างธุรกิจระดับโลกในระยะเวลาที่ยั่งยืน คนเก่งๆอยู่ในซิลิกอนวัลเล่ย์ เซี่ยงไฮ้ ลอนดอน ส่วนออสเตรเลียทำได้ดีมากในเรื่องการนำเสนอตัวเองว่าเป็นประเทศ lifestyle destination น่ามาเที่ยว น่ามาหาเลี้ยงครอบครัว มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แต่ที่ยังไม่มี และคิดว่ารัฐบาลสามารถเข้ามาจัดการได้ก็คือการโปรโมทประเทศว่าเป็นที่ๆทุกคนสามารถมาทำอาชีพที่จำเป็นได้ และนี่ก็ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องจัดการแล้ว”

Source : abc.net.au