รัฐมนตรี Immigration Kris Faafoi แถลงว่า วีซ่า Working Holiday และวีซ่าทำงาน Supplementary Seasonal Employment (SSE) ราว 10,000 วีซ่าที่จะหมดอายุในระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2021 จะได้ต่ออายุออกไปอีก 6 เดือน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน ในขณะที่มาตรการป้องกันโควิดตามพรมแดนของนิวซีแลนด์ยังคงมีผลอยู่ตามเดิม

และผู้ถือวีซ่า SSE จะได้รับสิทธิทำงานแบบเปิด ซึ่งจะทำให้สามารถทำงานใน sector ใดก็ได้

“นี่จะช่วยให้นายจ้างมั่นใจได้ว่าจะหาคนมาทำงานได้ และทำให้ผู้ถือวีซ่าเบาใจได้ว่าสามารถ อาศัยอยู่และทำงานในนิวซีแลนด์ได้ต่อไปอีกระยะ” Kris Faafoi กล่าว

“รัฐบาลจะเฝ้าระวังสถานการณ์พรมแดนและตลาดแรงงานต่อ และถ้ามีความจำเป็นก็จะต่ออายุวีซ่าออกไปอีก”

ส่วนวีซ่าทำงาน Essential Skills จะไม่มีการต่ออายุออกไปอีก แต่อายุวีซ่าสำหรับงานที่ได้รับค่าแรงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย จะเพิ่มขึ้น6 -12 เดือน เท่ากับตอนก่อนโควิด และ stand-down period สำหรับงานเหล่านี้จะเลื่อนออกไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2022

“การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขวีซ่าครั้งนี้จะทำให้แรงงานและนายจ้างมั่นใจว่า แรงงานที่มีทักษะเป็นที่ต้องการจะยังคงอยู่ในนิวซีแลนด์ได้ต่อ โดยขึ้นอยู่กับการทดสอบตลาดแรงงานว่าไม่มีคนนิวซีแลนด์มาทำงานในตำแหน่งที่ใช้ทักษะนั้น การต่อวีซ่าและเลื่อน stand-down period เป็นมาตรการชั่วคราวและสะท้อนถึงพันธกิจของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือนายจ้างกับภาคธุรกิจที่ขาดแคลนแรงงาน ในขณะที่มาตรการปิดพรมแดนก็ยังบังคับใช้อยู่ และการเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์โดยรวมของการปฏิรูปวีซ่าทำงานชั่วคราวที่ออกแบบมาเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าคนนิวซีแลนด์จะเป็นกลุ่มที่สำคัญที่สุดในเรื่องโอกาสการทำงาน”

นอกจากความเปลี่ยนแปลงของเงื่อนไขวีซ่าทำงาน Essential Skills แล้ว ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2021 การพิจารณาออกวีซ่าจะเทียบกับอัตราค่าแรงเฉลี่ยที่ 27 เหรียญต่อชั่วโมง อัตราค่าแรงนี้จะเป็นตัวกำหนดว่างานใดได้ค่าแรงสูงกว่าหรือต่ำกว่าและเป็นอัตราที่กำหนดมาจากความคิดเห็นสาธารณะ

นายจ้างที่จ่ายค่าแรงต่ำกว่าค่าแรงเฉลี่ยจะยังคงจ้างแรงงานย้ายถิ่นได้ตามเดิม แต่จะต้องตรวจสอบกับ Ministry of Social Development ว่ามีแรงงานที่ลงทะเบียนแล้วเหลืออยู่หรือไม่

“รัฐบาลได้ทำการสรุปวิสัยทัศน์ในระยะยาวสำหรับระบบการย้ายถิ่นของประเทศ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจที่เปลี่ยนไปสู่วิถีใหม่ในการจูงใจ ฝึกสอน และพัฒนาทักษะการทำงานให้ชาวกีวี่ และลงทุนสร้างมาตรการเพิ่มผลผลิต ซึ่งจะช่วยประเทศให้ฟื้นตัวจากโควิด-19 ด้วย รัฐบาลสนับสนุนภาคส่วนต่างๆและนายจ้างให้ลองเปลี่ยนแปลงและมองหาวิธีการที่จะจ้างงานคนนิวซีแลนด์ก่อนคนงานต่างชาติที่ถือวีซ่าชั่วคราว”

Immigration New Zealand จะติดต่อผู้ถือวีซ่าที่มีสิทธิได้รับการต่ออายุวีซ่า Working Holiday หรือ SSE ภายในวันที่ 25 มิถุนายน 2021

หมายเหตุ:

  -วีซ่า Working Holiday ที่จะหมดอายุระหว่าง 21 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2021 จะได้ต่ออายุออกไปอีก 6 เดือนโดยอัตโนมัติ

  -วีซ่าทำงาน SSE ที่จะหมดอายุระหว่าง 21 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2021 จะได้ต่ออายุออกไปอีก 6 เดือนโดยอัตโนมัติ โดยได้รับสิทธิทำงานแบบเปิด สามารถทำงานใน sector ใดก็ได้

  -คนที่อยู่ในนิวซีแลนด์ และเคยถือวีซ่าทำงานชั่วคราวสามารถยื่นขอวีซ่าทำงาน SSE ได้ แต่หากได้รับวีซ่า SSE แล้วจะสามารถทำงานใน sector พืชสวนกับการเพาะเลี้ยงองุ่นได้เท่านั้น

  -ค่าแรงเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นมาจะใช้ในการพิจารณาขอวีซ่าทำงาน Essential Skills ขอ Skilled Migrant Category และ Other Critical Worker border exception category

  -stand-down period เลื่อนไปถึง 22 กรกฎาคม 2022 ซึ่ง stand-down period จะให้ผู้ที่ถือวีซ่าทำงาน Essential Skills ที่ได้รับค่าแรงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ต้องออกจากนิวซีแลนด์ไประยะหนึ่งก่อน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าใหม่ได้

Source : beehive.govt.nz