ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2021 ออสเตรเลียจะเปิดประเทศรับผู้ถือวีซ่าบางประเภท รวมถึงวีซ่า skilled worker และวีซ่านักเรียน , backpacker, skilled migrant และนักเรียนต่างชาติจะสามารถเข้าออสเตรเลียได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้ โดยผู้ที่เข้าประเทศได้จะต้องฉีดวัคซีนครบแล้ว และไม่ต้องขอ travel exemption ส่วนคนญี่ปุ่นกับเกาหลีที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วก็สามารถเดินทางเข้าออสเตรเลียได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเช่นกัน โดยไม่ต้องกักตัว
สำหรับวีซ่า 28 ประเภทที่มีสิทธิ์ในการเข้าประเทศ ดูได้ที่ https://covid19.homeaffairs.gov.au/vaccinated-travellers
ผู้ที่ต้องการเข้าออสเตรเลียจะต้องฉีดวัคซีนครบและมีผลตรวจแบบ PCR เป็นลบภายใน 3 วันก่อนเดินทาง และมีเพียงรัฐ New South Wales, Victoria และ Australian Capital Territory เท่านั้นที่อนุญาตให้ผู้เดินทางสามารถเข้ารัฐได้โดยไม่ต้องกักตัว และออสเตรเลียกับสิงคโปร์ได้เปิด safe travel bubble ไปแล้วเมื่อวานนี้
นายกรัฐมนตรี Morrison กล่าวว่าการกลับมาของ skilled worker และนักเรียนถือเป็นเหตุการณ์สำคัญมาก และคนออสเตรเลียเองก็จะสามารถรอให้ถึงคริสต์มาสและช่วงเทศกาลวันหยุดได้ในแบบที่มีเพียงไม่กี่ประเทศในโลกเท่านั้นที่ทำได้
Josh Frydenberg รัฐมนตรีคลัง กล่าวว่าการเปิดประเทศรับผู้ถือวีซ่า 200,000 คนจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของออสเตรเลียได้อย่างมาก เหล่านายจ้างได้ร้องเรียนในเรื่องการขาดแคลนแรงงานในหลายๆภาคธุรกิจตั้งแต่ที่มีการปิดประเทศมาถึง 18 เดือน นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 ที่โควิด-19เริ่มระบาด
เมื่อวานนี้ ออสเตรเลียได้ฉีดวัคซีนประชาชนที่มีอายุเกิน 16 ปีครบ 2 โดสถึง 85% แล้ว ซึ่งเป็นการเข้าสู่เฟสสุดท้ายตามยุทธศาสตร์การเปิดประเทศ และตามตัวเลขจาก Australian Bureau of Statistics การศึกษาของนักเรียนต่างชาติทำรายได้เข้าออสเตรเลียถึง 37.6 พันล้านเหรียญในปี 2019
ชาวออสเตรเลีย permanent resident และผู้ถือวีซ่าตามที่กำหนด สามารถเดินทางเข้าออกออสเตรเลียได้โดยไม่ต้องขอ travel exemption
โดยจะต้องฉีดวัคซีนที่ได้รับการรับรองจาก Therapeutic Goods Administration (TGA) ครบโดสแล้ว รวมถึงวัคซีนไขว้ วัคซีนที่ได้รับอนุญาตให้ฉีดเพื่อเดินทางเข้าประเทศมีดังนี้:
วัคซีนที่ต้องฉีด 2 เข็มห่างกันอย่างน้อย 14 วัน:
AstraZeneca Vaxzevria
AstraZeneca Covishield
Pfizer/Biontech Comirnaty
Moderna Spikevax
Sinovac Coronavac
Bharat Biotech Covaxin
Sinopharm BBIBP-CorV (สำหรับผู้ที่มีอายุ 18-60 ปี)
วัคซีนที่ฉีดเข็มเดียว:
Johnson & Johnson/ Janssen-Cilag COVID Vaccine.
TGA กำลังประเมินวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ ข้อมูลอัพเดทเรื่องวัคซีนที่ได้รับอนุญาตสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของ TGA
โดยจะต้องฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายแล้วอย่างน้อย 7 วัน ส่วนวัคซีนไขว้ ถ้าวัคซีนทุกยี่ห้อที่ฉีดได้รับการรับรองจาก TGA แล้วก็ถือว่าฉีดครบ ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนยี่ห้อด้านบนหรือไม่ได้ฉีดตามเวลาที่กำหนด จะไม่ถือว่า “ฉีดครบ”
ข้อยกเว้นเรื่องวัคซีนและเด็ก
ผู้เดินทางที่มีหลักฐานว่าไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ขวบ ให้ใช้มาตรการด้านการเดินทางแบบเดียวกับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว รวมถึงเด็กอายุ 12-17 ปีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบที่เดินทางพร้อมพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่ฉีดครบแล้วด้วย
ข้อมูลมาตรการการกักตัวในแต่ละรัฐและ territory ตรวจสอบได้ที่ https://www.australia.gov.au/states
หากเด็กเดินทางกับคนในครอบครัวที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ทั้งครอบครัวนั้นจะต้องกักตัวตามมาตรการด้านการกักตัวและการจำกัดจำนวนผู้เดินทางตามที่กำหนด เด็กอายุต่ำกว่า 12 สามารถเดินทางได้โดยถือว่าฉีดวัคซีนครบแล้ว โดยใช้พาสปอร์ตเป็นหลักฐานเรื่องอายุ และพาสปอร์ตจะใช้เป็นหลักฐานสำหรับเด็กอายุ 12-17 ปีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบด้วย
หลักฐานการฉีดวัคซีนเมื่อเดินทางเข้าหรือออกออสเตรเลีย
หากฉีดวัคซีนในออสเตรเลีย จะต้องแสดง International COVID-19 Vaccination Certificate (ICVC) ให้กับพนักงานสายการบิน ซึ่ง ICVC จะเป็นไฟล์ PDF จะปริ้นต์ออกมาเป็นเอกสารหรือเก็บเป็นไฟล์ในโทรศัพท์ก็ได้
หากฉีดวัคซีนในต่างประเทศและไม่มี ICVC จะต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ตรงตามเกณฑ์ซึ่งกำหนดไว้ในเว็บไซต์ของ Australian Passport Office
ใบรับรองฉีดวัคซีน รวมถึง International COVID-19 Vaccination Certificate ไม่ได้หมายความว่าฉีดครบแล้ว เช่น ใบรับรองฉีดวัคซีนที่รับรองว่าฉีดแล้วเข็มเดียวจาก 2 เข็ม หากใบรับรองไม่ได้ยืนยันว่าฉีดวัคซีนครบตามที่กำหนด จะไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานเพื่อออกนอกออสเตรเลียหรือเข้าออสเตรเลียได้ ผู้เดินทางจะต้องตรวจสอบสถานะการฉีดวัคซีนของตนเองและเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนของตนเองด้วย และจะต้องทำตามข้อกำหนดต่างๆ ตามhttps://covid19.homeaffairs.gov.au/before-i-travel
กรณีไม่สามาถฉีดวัคซีนได้ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ
จะต้องแสดงหลักฐานข้อยกเว้นทางการแพทย์ และควรจะตรวจสอบข้อกำหนดต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการกักตัว ของแต่ละรัฐหรือ territory ที่จะเดินทางไป
การออกนอกออสเตรเลีย
คนออสเตรเลีย หรือ permanent resident ที่จะเดินทางออกนอกประเทศ จะต้องแสดงหลักฐานข้อห้ามทางการแพทย์ที่รายงานต่อ Australian Immunisation Register (AIR) และให้แสดงใบรับรอง Australian COVID-19 digital certificate ด้วย หรือยื่นจดหมายประวัติภูมิคุ้มกัน
หาก AIR ได้บันทึกข้อห้ามทางการแพทย์ชั่คราวไว้แล้ว ใบรับรอง COVID-19 digital certificate จะแสดงวันที่ว่าข้อห้ามนั้นๆ ใช้ได้ถึงเมื่อไหร่ และหลังจากวันที่ดังกล่าว จะต้องทำตามข้อใดข้อหนึ่งด้านล่างนี้:
- ตรวจสอบกับแพทย์ประจำตัวว่าสามารถฉีดวัคซีนได้แล้วหรือไม่ หรือ
- ขอให้แพทย์อัพเดทสถานะใน AIR ให้ หากข้อห้ามทางการแพทย์ข้อนั้นยังคงมีผลอยู่
หากไม่สามารถยื่นหลักฐานว่าข้อห้ามทางการแพทย์ของตนเองอยู่ในรายชื่อที่ AIR กำหนด จะต้องสมัครขอใช้ข้อยกเว้นในการเดินทางออกนอกประเทศ
เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ตามที่กำหนดไว้ในเว็บไซต์ของ Department of Health เท่านั้นที่สามารถรายงานข้อห้ามทางการแพทย์ไปยัง AIR หากผู้เดินทางไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าข้อห้ามทางการแพทย์ของตนเองได้ถูกรายงานไปยัง Australian Immunisation Register แล้ว จะต้องสมัครขอใช้ข้อยกเว้นในการเดินทางออกนอกประเทศ
การเข้าออสเตรเลีย
ให้ตรวจสอบข้อกำหนดต่างๆ โดยเฉพาะด้านการกักตัว ของแต่ละรัฐหรือ territory ที่จะเดินทางเข้า และต้องแสดงใบรับรองทางการแพทย์ที่บ่งชี้ว่าไม่สามารถฉีดวัคซีนไว้เนื่องจากสภาวะด้านสุขภาพ ใบรับรองทางการแพทย์จะต้องมีข้อมูลดังต่อไปนี้:
- ชื่อ-นามสกุล (ต้องตรงกับเอกสารยืนยันตัวตนที่ใช้สำหรับเดินทาง)
- วันที่ที่เข้ารับคำแนะนำทางการแพทย์และรายละเอียดของแพทย์
- ข้อมูลที่แสดงชัดเจนว่ามีปัญหาด้านสุขภาพซึ่งทำให้ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ (การฉีดวัคซีนจะทำให้อาการกำเริบ)
คนที่ฉีดวัคซีนยี่ห้อที่ TGA ไม่ได้ให้การรับรอง ถือว่าไม่จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ และไม่ถือว่าเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว
หากมีแพลนจะเดินทางต่อไปยังรัฐหรือ territory อื่นอีก หลังจากเข้าออสเตรเลียมาแล้ว จะต้องตรวจสอบข้อกำหนดด้านการเดินทางภายในประเทศ ซึ่งรัฐและ territory ต่างๆอาจจะมีมาตรการต่างกันออกไป
ผู้เดินทางจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรการด้านการเดินทาง
การกักตัว
อาจจะได้กักตัวในเวลาที่สั้นกว่าเดิมขึ้นอยู่กับรัฐหรือ territory ที่เดินทางเข้า โดยจะต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านการกักตัวทั้งของรัฐที่จะเดินทางเข้า และรัฐที่วางแผนจะเดินทางต่อ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงมาตรการได้แบบกระทันหัน
สามารถเดินทางเข้าออกระหว่างรัฐได้เฉพาะ NSW, Victoria และ ACT โดยไม่ต้องกักตัว
หากจะเดินทางต่อไปยังรัฐหรือ territory อื่นๆ อาจจะเดินทางเข้าไปไม่ได้ หรืออาจจะต้องกักตัว
ผู้เดินทางต้องมีคุณสมบัติตรงตามมาตรการการเดินทางเข้ารัฐและมาตรการกักตัวของแต่ละรัฐ และอาจจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกักตัวหากไม่มีคุณสมบัติตรงตามที่รัฐกำหนด
ตรวจสอบข้อมูลการกักตัวในแต่ละรัฐได้ที่ https://www.australia.gov.au/states
วีซ่าที่มีสิทธิ์เข้าประเทศ
ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2021 ผู้ถือวีซ่าตามที่กำหนดที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว จะสามารถเข้าออสเตรเลียได้โดยไม่ต้องขอ travel exemption
วีซ่าที่กำหนดมีดังนี้:
Subclass 200 – Refugee visa
Subclass 201 – In-country Special Humanitarian visa
Subclass 202 – Global Special Humanitarian visa
Subclass 203 – Emergency Rescue visa
Subclass 204 – Woman at Risk visa
Subclass 300 – Prospective Marriage visa
Subclass 400 – Temporary Work (Short Stay Specialist) visa
Subclass 403 – Temporary Work (International Relations) visa (other streams, including Australian Agriculture Visa stream)
Subclass 407 – Training visa
Subclass 408 – Temporary Activity visa
Subclass 417 – Working Holiday visa
Subclass 449 – Humanitarian Stay (Temporary) visa
Subclass 457 – Temporary Work (Skilled) visa
Subclass 461 – New Zealand Citizen Family Relationship visa
Subclass 462 – Work and Holiday visa
Subclass 476 – Skilled – Recognised Graduate visa
Subclass 482 – Temporary Skill Shortage visa
Subclass 485 – Temporary Graduate visa
Subclass 489 – Skilled – Regional (Provisional) visa
Subclass 491 – Skilled Work Regional (Provisional) visa
Subclass 494 – Skilled Employer Sponsored Regional (Provisional) visa
Subclass 500 – Student visa
Subclass 580 – Student Guardian visa (closed to new applicants)
Subclass 590 – Student Guardian visa
Subclass 785 – Temporary Protection visa
Subclass 790 – Safe Haven Enterprise visa
Subclass 870 – Sponsored Parent (Temporary) visa
Subclass 988 – Maritime Crew visa