เนื่องจากยัง ติว IELTS กันไม่เสร็จ เลยยังไม่มีเวลาเขียนยาวๆ เรื่องวีซ่าไหนเหมาะกับเราที่สุด เป็นบทความให้เสร็จ เลยต้องใช้วิธีเก็บเล็กผสมน้อยเขียนทีละตอนไปเรื่อยๆครับ (สักสามสี่ตอนก็คงจบ แล้วจะได้เอาลงเป็นบทความทีเดียว) ต่อจากตอนแรก ตอนนี้เป็นตอนวีซ่านักเรียนครับ
===========================================================

หลายๆคนที่คิดๆจะไปเรียนภาษา หรือเรียนอะไรสั้นๆ ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปด้วย Work and Holiday Visa ดี หรื่อว่าวีซ่านักเรียนดี บลอกตอนนี้จะบอกว่าสองวีซ่านี้ต่างกันยังไงครับ

2) Australian Student Visa (วีซ่านักเรียนออสเตรเลีย)

คุณสมบัติหลักของผู้ขอวีซ่า
- ลงทะเบียนเรียนและชำระค่าเรียนในคอร์สเรียนที่ได้รับการลงทะเบียนไว้กับรัฐบาลออสเตรเลีย (สามารถตรวจสอบว่าคอร์สที่สนใจสามารถใช้ขอวีซ่าได้มั้ยจากเวป Cricos)

- เป็น Genuine student คือตั้งใจจะไปเรียนจริงๆ : โดยสถานทูตอาจจะสัมภาษณ์เกี่ยวกับ คอร์สเรียนที่จะไปเรียน และกติกาของวีซ่า ว่าเรามีความเตรียมพร้อมแค่ไหน - มีหลักฐานการเงินและผู้สนับสนุนทางการเงินที่น่าเชื่อถือ

- มีผลสอบ IELTS / ผลภาษาตามที่สถาบันที่เปิดคอร์สนั้นๆกำหนด (ถ้าเรียนภาษาแบบทั่วๆไปก็ไม่ได้กำหนดไว้ แต่ถ้าเรียน Academic English ก็จะต้องมีผลที่สถาบันพอใจก่อน)

สิทธิในการทำงานและกติกาต่างๆ

- ทำงานได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

- ทำงานได้เต็มเวลาในช่วงปิดภาคเรียน

- ต้องมี OSHC (Overseas Student Health Cover ครอบคลุมระยะเวลาที่อยู่ในออสเตรเลีย)

- ต้องแจ้งที่อยู่กับสถาบันที่สังกัดภายใน 7 วันหากมีการย้ายที่อยู่

- ต้องเข้าเรียนและมี Attendance ตามที่สถาบันกำหนด

- ต้องมี Academic Record ที่สถาบันที่สอนอยู่กำหนด (หากไม่ สถาบันสามารถรายงานเราไปกับอิมมิเกรชันได้)
ต้นทุนที่ใช้โดยประมาณ

- ขึ้นอยู่กับคอร์สที่ไปเรียน เรียนภาษา ทั่วไปงบตั้งแต่ 110,000- 250,000 บาท
เรียนโท ค่าเรียนเทอมละ 240,000-450,000บาท ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย
วีซ่านี้เหมาะกับ

- คนที่ตั้งใจไปเรียนต่ออยู่แล้ว ต้องการพัฒนาภาษา ต้องการเรียนรู้วัฒนธรรมของเพื่อนต่างชาติ ต้องการได้ qualification ที่เป็นที่ยอมรับได้ทั่วโลก และอยากทำงาน Part-time แบบถูกกฎหมายเพื่อแบ่งเบาภาระทางบ้าน หรือเก็บเงินกลับบ้านบ้าง

ระยะเวลาในการขอวีซ่า

รวมระยะเวลาตั้งแต่ทำเรื่องกับทางสถาบันจนถึงได้รับวีซ่าจากสถานทูตอยู่ที่ประมาณ 1 เดือน สามารถขอวีซ่าได้ตลอดปี

ข้อควรทราบ
สถานทูตจะค่อนข้างเข้มงวดกับเรื่องว่าเราไปเรียนอะไร หลักฐานการเงินเราเป็นยังไง ดังนั้นก่อนที่เราจะตัดสินไปเรียนต่อออสเตรเลีย เราต้องดูเรื่องพวกนี้กันให้ดีก่อนครับ

Assessment Levels และ Student Visa Subclasses

ทาง Department of Immigration and Citizenship (DIAC) ได้ใช้ทั้ง Assessment Levels (ALs) และ Student Visa Subclasses ในการพิจาณาวีซ่านักเรียน

Subclasses หรือ วีซ่าซับคลาส : DIAC แบ่ง Subclass ของวีซ่าตามประเภทของคอร์สที่เรียน โดย Subclass ของ Student visa จะนับเป็นตัวเลข 3 ตัว เพื่อกำกับว่านักเรียนที่ได้รับเลข subclass นั้นๆได้ลงเรียนอะไร โดยกำหนดไว้ดังต่อไปนี้ (ในที่นี้จะพูดถึง subclass ที่นักเรียนไทยไปเรียนกันนะครับ)
570 : เรียนภาษา : English Language Intensive Courses for Overseas Students (ELICOS)

571 : เรียนประถมและมัธยม : Primary or secondary school course

572 : เรียนต่อระดับวิชาชีพ หรือ Diploma : Primary Vocational education and training (VET)

573 : เรียนต่อตรี / โท Coursework : Higher Education

574 : เรียนต่อปริญญาโท (Research) และปริญญาเอก : Postgraduate research

Assessment Levels : เป็นระดับที่ทาง DIAC จัดให้กับนักเรียนแต่ละประเทศ ที่ขอวีซ่า subclass ต่างๆกัน โดยจะไล่เป็น Level 1 ถึง 5 (1 ดีสุด และ 5 แย่สุด) ของประเทศไทยถือว่าค่อนข้างโอเค เพราะมีแต่ level 1 และ 2 โดยจัดให้ 570 และ 572 เท่านั้นที่เป็น Level 2 (ความเข้มงวดในการขอวีซ่าและหลักฐานที่ใช้ก็จะแตกต่างกัน ของ Level 1 จะง่ายกว่า)

ข้อมูลเพิ่มเติม
เรียนต่อออสเตรเลีย

Subclasses

Assessment Levels