Community Zone
การยื่น visa ติดตามนักเรียนด้วยตัวเอง
โดย : zgamez   (10 May 2010) จำนวนผู้เข้าชม 17143 คน

การเตรียมเอกสารและการยื่น visa ติดตามด้วยตัวเอง (Updated 19/02/2013)

การเตรียมตัวยื่น visa ติดตามนักเรียนเป็นบทความหนึ่งที่ผมกะว่าจะเขียนนานมากแล้วครับ แต่เนื่องจากติดภารกิจต่างๆเลยได้แต่ผลัดไปผลัดมาอยู่นั่น วันนี้เคลียร์งานเสร็จไปแวปหนึ่ง เลยมานั่งเขียนบททความนี้ด้วยซะเลยเพราะเป็นประสบการณ์ตรงที่ยื่นเองและคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งๆเพื่อนๆ WAH และเพื่อนๆที่ถือ visa นักเรียนที่เข้ามาอ่านกันครับ


Student Dependent Visa หรือ visa ติดตามนักเรียนเป็น visa ที่ให้สิทธิ์ผู้ถือในการอยู่ Australiaเป็นระยะเวลายาวของ visa นักเรียนของผู้สมัครหลัก โดยผู้ติดตามไม่ต้องลงเรียน และสามารถทำงานได้เท่ากับผู้ถือ visa นักเรียน (20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ยกเว้นกรณีติดตามนักเรียนป.โท หรือ เอก สามารถทำงานได้ไม่จำกัดชั่วโมง) ทั้งนี้ผู้จะติดตามอาจจะแบ่งได้เป็นสองกรณีหลักๆได้แก่

  • 1) แต่งงานแล้ว
  • ในกรณีทั้งสองจะต้อง มีหลักฐานความสัมพันธ์เช่น ใบจดทะเบียนสมรส หรือรูปถ่ายงานแต่งงานและหลักฐานอื่นๆที่แสดงให้เห็นว่าเราได้รู้จักกันมา เป็นระยะเวลาหนึ่งและมีความสัมพันธ์ที่เป็นจริง ที่จะทำให้เค้าเชื่อได้ว่าไม่ได้จะมาติดตามกันหลอกๆเพราะว่าไม่อยากเสียค่า เทอมเฉยๆ
  • 2) De Facto Relationship หรือการกินอยู่กันฉันท์สามีภรรยา กรณีนี้ ณ ปัจจุบัน (May 2010) ทั้งสองจะต้องมีหลักฐานในการใช้ชิวิตร่วมกันเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีจึงจะสามารถยื่นได้ครับ (บางครั้งได้ยินว่าบางคนไม่ครบปียื่น visa นี้ผ่านได้ก็มี แต่พร้อมไว้ดีกว่าเค้าจะได้ไม่มีเหตุผลมาปฎิเสธ visa เราครับ) บทความเรื่องการเตรียมตัวยื่นเอกสาร visa ติดตามบทความนี้จะเน้นไปที่แบบที่สองครับแต่ผู้ที่ยื่นแบบที่หนึ่งก็สามารถอ่านได้เอกสารก็จะไม่ต่างกันมาก


การเตรียมตัว
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าผู้ติดตามและผู้ถือ visa หลักจะต้องมีหลักฐานว่าได้ใช้ชิวิตร่วมกันมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งปี ดังนั้นเราควรจะวางแผนให้ดีครับว่าต้องทำอะไรบ้างในวันนี้เพื่อให้แฟนเรามาถือ visa ติดตามได้ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า (การยื่นแบบ Defacto นี่จะเหมาะกับคู่ที่คบกันมาระยะหนึ่ง มีหลักฐานอยุ่บ้างแล้ว หรือยังไม่มีหลักฐานเลยแต่อาจจะยังไม่พร้อมที่จะจดทะเบียนแต่พร้อมจะเก็บหลักฐานครับ) ข้อแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ยื่น visa ไม่พร้อมกันครับ

ในกรณีผู้สมัครหลักกำลังจะยื่น visa นักเรียน (แต่ยังมีหลักฐานอยู่ด้วยกันไม่ครบหนึ่งปี) ก็ให้ declare ความสัมพันธ์ไปด้วยเลยในการสมัคร visa นักเรียนว่าเป็น defacto กับคนนี้ passport number นี้ จะได้สอดคล้องกันกับหลักฐานต่างๆที่เราจะเก็บให้ครบปีนึงครับ
ระหว่างนี้หลักฐานที่เราควรเริ่มเก็บ ได้แก่
การเปิดบัญชีร่วมกัน ที่เค้าเรียกว่า Joint Account ครับ หลักฐานชิ้นนี้เก็บไม่ยากและค่อนข้างสำคัญ แค่ไปแจ้งความจำนงค์กับธนาคารว่าเราอยากเปิดบัญชีคู่กัน ยิ่งเปิดเร็วยิ่งดีครับ เพราะเค้าจะนับวันที่เราเริ่มมีหลักฐานเป็นสำคัญ
การ sign contract เช่าบ้านร่วมกัน ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะทำสัญญาเช่นบ้านร่วมกันครับ ถ้าไม่ได้จริงๆก็ควรจะมีหลักฐานจากเจ้าของบ้านว่าเราเช่าบ้านเค้าอยู่ด้วยกันจริงๆ
Utility Bills ต่างๆ เช่นค่ามือถือ ค่าไฟ ค่าแก๊ซ บิลเหล่านี้จะต้องถูกส่งไปยังที่อยุ่เดียวกันในชื่อของทั้งสองคน เช่นบิลค่าไฟเป็นชื่อของผู้สมัครหลัก และบิลค่าอินเทอเนทเป็นชื่อของผู้ที่จะสมัครติดตาม และควรเก็บบิลเหล่านี้ไว้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่งปีครับ โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้แสดงถึงการที่เราอยู่ด้วยกันจริงๆ และการแชร์ค่าใช้จ่ายกัน
Overseas Student Health Cover (Family Unit) เป็นข้อกำหนดของ visa นักเรียนอยู่แล้วว่าจะต้องมีประกันสุขภาพตลอดเวลาที่อาศัยอยู่ใน Australia แต่ก่อนจะยื่น visa ควรจะไปเปลี่ยนจากประกันของตัวเองให้เป็น Family Unit ครับ
รูปถ่ายต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เช่นไปเที่ยวกัน อ้วนขึ้น ผอมลง ผมเปลี่ยนทรง ไม่ใช่ถ่ายมาร้อยรูปวิวเดิมหมดเลย เปลี่ยนชุด หน้าเดิม ผมเดิม อันนี้ก็จะดูไม่น่าเชื่อไปโดยปริยาย
• หลักฐานทางการเงิน ให้แน่ใจว่าผู้สนับสนุนทางการเงินของเรามีหลักฐานทางการเงินที่เพียงพอสำหรับทั้งสองคน โดยค่าใช้จ่ายที่ทางรัฐบาลต้องการให้ครอบคลุมได้แก่
สำหรับผู้สมัครหลัก
ค่าตั๋วไปกลับ :2000 AUD
ค่าเรียน; จะนับส่วนที่ยังไม่ได้จ่ายในปีแรก
ค่าครองชีพ ;1550 AUD ต่อเดือนได้ visa กี่เดือนก็คูณไป ถ้าขอ visa ปีนึงขึ้นไปจะคิดแค่ปีแรกครับ (18610 AUD / year)
สำหรับผู้ติดตาม
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 2000 AUD ต่อคน
ค่าครองชีพ ;6515 AUD ต่อเดือนปี
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักฐานการเงินได้ที่นี่ครับ
http://www.immi.gov.au/students/students/573-1/financial.htm

ตรวจสอบเอกสาร

หลักจากนั้นก็เป็นเรื่องของระยะเวลา เก็บหลักฐานเหล่านี้อย่างต่อเนื่องให้ครบปีนึงก็จะถึงเวลายื่น visa ครบปีนึงที่ว่าอาจจะเอาเวลาที่ปรากฎอยู่ในวันเริ่มต้นใช้ Joint Account หรือวันที่มีสัญญาบ้านร่วมกันเป็นสำคัญครับ (โดยมากใช้วันที่เปิด Joint Account นั่นแหละเพราะเริ่มได้เร็วสุด) จากนั้นก่อนยื่น visa ให้เตรียมเอกสารดังนี้ครับ

  • ขอใบรับรองจากธนาคาร ว่าเราเปิดบัญชีร่วมกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ (ถ้าจำไม่ผิดจะเสียประมาณ 15 AUD ที่Commonwealth Bank)
  • หลักฐานการตรวจสุขภาพของผู้ติดตาม (ในกรณีตรวจสุขภาพล่าสุดเกินหนึ่งปีแล้ว ถ้าไม่เกินหนึ่งปีก็ไม่ต้องไปตรวจซ้ำ) และให้เก็บใบเสร็จไว้ด้วยเพื่อใช้ในการยื่น visa
  • รับรองเอกสารโดย JP นำ Passport ไปถ่ายเอกสารและนำสำเนาไปให้ Justice of The Peace (JP) รับรอง (หลักฐานทางราชการของที่นี่ต้องให้ผู้ที่ได้รับการยอมรับทางกฎหมายรับรองครับ ไม่ได้เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องได้เองเลยเหมือนที่ไทย)คลิกเพื่อหา JP ตามรัฐต่างๆใน Australia
  • เขียนจดหมาย Relationship Summary โดยระบุถึงว่าพบกันเมื่อไหร่ อย่างไร (จดหมายนี้ผมได้ต้นแบบมาจากคุณดอส ออสซี่ไทยครับ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ)
  • CoE (Confirmation of Enrollment) และ Visa ของผู้สมัครหลัก
  • เตรียมหลักฐานการเงินไว้ให้พร้อม
    หมายเหตุ visa นักเรียนของนักเรียนจะถูกแบ่งออกเป็นหลาย sub class ตามวัตถุประสงค์ของคอร์สเรียนหลัก เช่น เรียนภาษา sub class 570 เรียนโท sub class 573 เป็นต้น
    และจะถูกแบ่งย่อยด้วย Assessment Level 1-4 (เลขยิ่งน้อยจะของ่ายกว่า) ถ้าเป็น Assessment Level 1 และยื่น visa ออนไลน์จะไม่ต้องยื่นหลักฐานทางการเงินครับ (แต่ยื่นที่ไทยเค้าบอกให้ยื่นหลักฐานการเงินด้วยอยู่ดี ถ้ายื่นแบบ paper based) visa ที่เป็น Assessment Level 1 ขอพูดแค่ตัวหลักๆ 573 – higher education (เรียน ตรี โท) และ 574 (เรียนโทหรือเอกแบบรีเสริช)ครับ
  • กรอกForm 157a และ Form 919 ให้เรียบร้อย
  • สำเนาของบิลต่างๆที่ส่งมาที่ที่อยู่เดียวกัน
  • สำเนาของสัญญาเช่าบ้าน (Lease Agreement)
  • สำเนาของ Ledger แสดงให้เห็นว่าเราจ่ายเงินค่าบ้านอย่างไร เป็นระยะเวลาเท่าไหร่
  • สำเนาจม.หรือใบเสร็จจาก Insurance Service Provider ทีแสดงว่าเราใช้ประกันแบบ Family Unit
  • เขียนจดหมายสรุปหลักฐานที่มีทั้งหมดแปะหน้าไปให้เค้าซักหน่อย ดาวน์โหลด ตัวอย่าง Proof of Relationship Evidence Clarification

    เมื่อเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะได้ visa กันครับ
    การยื่นเอกสาร (ที่ไทย)
    ถ้ายื่นที่ไทยสามารถยื่นได้ด้วยตัวเองหรือทางไปรษณีย์ครับ
    การยื่นเอกสาร (ที่ Australia)
  • ยื่นด้วยตัวเอง เตรียมเอกสารให้ครบ ไปยื่นเอกสารด้วยตัวเองที่สำนักงานของ อิมมิเกรชันใกล้บ้าน
  • ยื่นทางไปรษณีย์
    คลิกเพื่อหา ออฟฟิซของอิมมิเกรชัน
    ให้สังเกตดีๆว่าที่อยู่ Street Address และ Postal Address จะไม่เหมือนกันนะครับ ถ้าจะยื่นด้วยตัวเองให้ใช้ที่อยู่ Street Address ถ้ายื่นทางไปรษณีย์ให้ใช้ Postal Address ครับ
    อ้อ สำหรับคนที่จะยื่นทางไปรษณีย์อย่าลืมไปซื้อ Money Order (from Australian Post) หรือ Bank Cheque (from any bank) สั่งจ่าย DIAC นะครับ หรือจะเซ็นรายละเอียดฟอร์มที่ให้หักบัตรเครดิตแล้วแนบไปก็ได้
    เมื่อทางอิมมิเกรชันได้รับเอกสารแล้วจะใช้เวลาดำเนินการพิจารณาราวๆสิบวันทำการได้ครับ ยังไงเก็บหลักฐานกันให้ดีและก็ขอให้ visa ผ่านกันทุกคนครับ

    ข้อควรรู้เพิ่มเติมสำหรับ visa ติดตามนักเรียน
  • ถ้ายื่น visa พร้อมกันเลยจะเสียค่ายื่นเท่ากับผู้สมัครเดียว (535 AUD)
  • ถ้ามายื่นแยกกันทีหลังผู้สมัคร visa ติดตามจะต้องเสียค่าสมัครอีกทีเป็นจำนวนเงิน 535 AUD
  • ถ้ายื่นที่ออสเตรเลีย และยื่นติดตามทีหลัง ไม่สามารถยื่นออนไลน์ได้ ถ้าส่งไปรษณีย์หรือยื่นด้วยตัวเองเท่านั้น
  • ผู้ติดตามของผู้ถือวีซ่านักเรียน ปกติสามารถทำงานได้สี่สิบชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ ยกเว้นกรณีว่าผู้ถือ visa หลักเรียนโทหรือเอก ผู้ถือ visa ติดตามสามารถทำงานได้เต็มเวลา หลังจากคอร์สหลักเริ่มเรียนแล้ว
  • การยกเลิกวีซ่าติดตาม ผุ้ติดตามจะต้องหาวีซ่าใหม่ให้ได้ภายในยี่สิบแปดวัน หลังจากที่ฝ่ายแรกแจ้งว่าความสัมพันธ์จบสิ้น
  • มีข่าวลือว่าทำวีซ่าติดตามแล้วจะต้องเรียนด้วย ยังไม่มีการยืนยัน อย่าเพิ่งไปเชื่อครับ อีกอย่างมันไม่สมเหตุสมผลว่าจะไปให้คนที่ติดตามไปเรียนยังไงเพราะเค้าก็มีคอนดิชันบอกชัดเจนว่าไม่ให้เรียนเกินสามเดือน เกิดบังคับให้เรียนจริงๆ แล้วเรียนฟรี รร. คงไม่ยอม หรือบังคับให้จ่ายเงิน ก็น่าจะเรียกว่าเป็นวีซ่านักเรียนมากกว่าที่จะเป็นวีซ่าติดตาม


Social Network


 
Advertrising