Updated : 18/9/2014

จากกระทู้นี้ ไปเรียนภาษากับทำงานขอวีซ่าแบบไหนดีคะ ที่ถามว่าจะไปออสเตรเลีย โดยมีเป้าหมายที่จะเรียนและทำงานไปด้วย จะไปด้วยวีซ่าอะไรดี

คำถาม นี้เป็นคำถามที่ผมได้รับบ่อยเหมือนกันครับ ซึ่งจะไปด้วยวีซ่าอะไรนี่จริงๆ ก็จะแล้วแต่เป้าหมาย งบประมาณ และคุณสมบัติอื่นๆ ของเราเป็นหลัก

(ถ้าในส่วนของค่าใช้จ่ายว่าต่างกันยังไง ผมมีเปรียบเทียบไว้คร่าวๆ ดังนี้ครับ ค่าใช้จ่ายในการไปออสเตรเลีย)


ถ้าพูดกันคร่าวๆ ว่าอยากเรียนเป็นหลักและทำงาน part-time ด้วย วีซ่านักเรียนก็น่าจะเหมาะกว่า Work and Holiday
แต่ถ้าอยากเรียนนิดหน่อยเพื่อปรับตัว หรือเตรียมตัวกลับมาเรียนต่ออีกที Work and Holiday ก็จะเป็นออปชันที่น่าสนใจครับ

ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจจึงอยากให้ดูกันดีๆ ก่อนว่า

1. วัตถุ ประสงค์หลักๆ ของเราคืออะไร เราอยากได้อะไรเป็นหลัก เช่น อยากเรียนโท อยากเรียนภาษา อยากเรียนไปด้วยให้รร.หางานให้ไปด้วย หรืออยากเที่ยวไปทำงานไป เป็นต้น
2. งบประมาณที่กะไว้ว่ามีเท่าไหร่ อยากเดินทางช่วงไหน และตรวจสอบคุณสมบัติตัวเองว่าเหมาะกับวีซ่าไหน

โดยเบื้องต้นสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจ ผมจะแนะนำให้ลองตอบคำถามเหล่านี้ก่อนครับ

• เป้าหมายหลักที่อยากไปออสเตรเลีย
• งบประมาณที่กะว่าจะใช้ในการไปออสเตรเลียครั้งนี้
• มีผลภาษาอังกฤษ (IELTS หรือจบอินเตอร์มา หรือเทียบเท่า) หรือไม่
• อยากไปออสเตรเลียช่วงไหน
• ใครจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้
• อายุ / ระดับการศึกษา
• อยากเดินทางช่วงไหน

นอกจากนี้เพื่อให้เห้นภาพมากขึ้นว่าวีซ่าไหนเหมาะกับตัวเองที่สุด ให้ลองดูรายละเอียดด้านล่างกันก่อนครับ
ถ้า พูดคร่าวๆ วีซ่านักเรียนจุดประสงค์หลักก็คือไปเรียน (และทำงาน part-time ได้) และ Work and Holiday Visa ก็มีไว้ทำงานและท่องเที่ยว

สำหรับข้อแตกต่างของสองวีซ่านี้ผมแยกไว้ให้เป็นข้อๆ ดังนี้ครับ
 

อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับทั้งสองวีซ่า

วีซ่านักเรียน

• อายุวีซ่า : ตามระยะเวลาคอร์สเรียน (บวกไปอีกนิดหน่อย)
• เวลาที่ขอได้ : ขอได้ตลอดปี (โดยมีกติกาว่าขอได้ก่อนคอร์สเริ่มไม่เกิน สามเดือนสำหรับวีซ่านักเรียนแบบเปเปอร์ และสี่เดือนสำหรับวีซ่าแบบออนไลน์)
• คุณสมบัติหลักๆ : ไม่ได้กำหนดเรื่องอายุ แต่ดูเรื่องความสมเหตุสมผลและหลักฐานการเงินตลอดจน background ของผู้สมัครเป็นหลัก : ต้องมีหลักฐานการเงินสนับสนุน โดยจะเป็นของผู้ปกครองก็ได้
• สิทธิในการทำงาน : 40 ชม.ต่อ 2 weeks และ ทำได้ full-time ช่วงปิดเทอม
• วีซ่าติดตาม : ผู้ถือวีซ่าติดตามทำงานได้เท่ากับนักเรียน แต่ถ้านักเรียน เรียนโท หรือเอก ผู้ติดตามทำงานได้ full-time ตลอดเวลาครับ
• ค่าใช้จ่าย : เรียนภาษาหกเดือนอยู่ที่ตั้งแต่ 1.5 แสน-2.5 แสน แล้วแต่คุณภาพรร. ถ้าเรียนคอร์สปริญญาโทก็จะราคาสูงกว่านี้ แต่ก้อนแรกขึ้นอยู่กับระดับภาษาเราด้วยครับ เช่นถ้าภาษาดี ก็อาจจะเรียนภาษาไม่นานก็จะประหยัดกว่าเป็นต้น
  การไปเรียนต่อโทสามารถแพ กเกจคอร์สเรียนภาษา กับคอร์สป.โทเข้าด้วยกัน โดยจ่ายค่าเรียนภาษาและมัดจำเข้าเรียนโทได้ (ส่วนนึงของเทอมแรก หรือทั้งเทอมขึ้นอยุ่กับเงื่อนไขของยูนั้นๆ )
• การยื่นวีซ่า : มีทั้งแบบเปเปอร์ และออนไลน์ (ถ้าพ่วงกับคอร์สในมหาวิทยาลัยที่ไม่ใช่คอร์สภาษาจะยื่นอ อนไลน์ได้ : Bachelor / Master / Doctorate / Higher Education Diploma / Graduate Certificate) ; ถ้าพูดคร่าวๆ คือ Online ของ Higher Education จะมีการพิจารณาวีซ่าที่เข้มงวดน้อยกว่าแบบ paper based ทั้งในเรื่องของหลักฐานที่ต้องยื่นและกระบวนการ
  อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องวีซ่าแบบ paper based และ online - Visa subclasses and Assessment Levels
• การต่อวีซ่า : ต่อวีซ่าในออสเตรเลียได้ถ้าไม่ติดคอนดิชัน No Further Stay (ซึ่งจะติดหรือไม่ติดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ แต่ส่วนมากที่ผมเห็นก็ไม่ติดนะครับ)
• วีซ่าอื่นๆ ที่ขอได้หลังหมดวีซ่านักเรียน : Skilled Graudate 485 (ถ้าเรียนจบในออสแบบเป็นเรื่อง เป้นราวในสาขาที่เค้าต้องการ ) / วีซ่าทำงาน Post Study Visa (ถ้าเรียนตรี โท เอก ที่ยาวสองปีขึ้นไปจบ มีสิทธิ์ได้วีซ่าทำงานต่ออีก 2 ปี) / Other Student visas / Business Long Stay Visa (วีซ่าทำงาน ถ้านายจ้าง sponsor) / วีซ่าคู่สมรสและวีซ่าถาวรต่างๆ

Work and Holiday

• อายุวีซ่า : 1 ปี
• เวลาที่ขอวีซ่าได้ : จะแบ่งเป็นสองขั้นตอน คือขอใบรับรองจากสท. ในช่วงกค. และหลังจากนั้นก็สามารถขอวีซ่าได้ครับ (สถานทูตนับโควต้าใหม่ตั้งแต่ 1 กค.ของทุกปี)
• คุณสมบัติหลักๆ : ต้องมี IELTS 4.5 จบปริญญาตรี และอายุไม่เกิน 30 ปี มีเงินในบัญชีตัวเองอย่างน้อย 5000 AUD
• สิทธิในการทำงาน : 6 เดือนต่อ 1 นายจ้าง ไม่จำกัดชม.การทำงาน (สามารถต่อได้บ้างในบางกรณี อยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่)
• วีซ่าติดตาม : ไม่สามารถมีผู้ติดตามได้
• ค่าใช้จ่าย : ค่า วีซ่าและ VFS รวมแล้วอยู่ที่ราวๆ เกือบๆ 1 หมื่นบาท นอกนั้นเป้นค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ เช่น ตรวจสุขภาพ / สอบ IELTS / ตั๋วเครื่องบิน / pocket money (ประหยัดกว่าค่อนข้างเยอะ)
• การยื่นวีซ่า : Paper based application เท่านั้น (ส่วนที่เป็น online คือการยื่นขอใบรับรองจากสท. ไม่ใช่ยื่นวีซ่า)
• การต่อวีซ่า : ต่อวีซ่าในออสเตรเลียไม่ได้เพราะติด condition : No Further Stay (แต่ตั้งแต่ปี 2013 ก็ไม่ค่อยติดกันแล้วนะครับ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในการต่อวีซ่านักเรียนอยู่)
• วีซ่าอื่นๆ ที่ขอได้หลังหมดวีซ่า Work and Holiday: Business Long Stay Visa / Other Student Visas / วีซ่าคู่สมรสและวีซ่าถาวรต่างๆ

อย่าง ที่บอกไป หลักการการเลือกวีซ่าก้คือเลือกวีซ่าที่เหมาะสมกับเป้าหมาย คุณสมบัติ และงบประมาณของตัวเองมากที่สุด ยังไงก็ลองดูนะครับว่าอยากไปแบบไหนมากกว่า
ส่วนตัวผมเองเคยถือทั้งสองวีซ่า และก็รุ้สึกว่าทั้งสองก็มีข้อดีต่างๆ กันครับ :)

ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสองวีซ่านี้ก็ถามผมได้เลยครับที่ info@thaiwahclub.com :)
 

เกมส์