5 นิสัยที่ขัดขวางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของคุณ หลังจากได้เรียนและสอนภาษาอังกฤษมาหลายปี ผมพบว่ามีหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้เด็กไทยเรียนภาษาอังกฤษกันยาก เรื่องหลักๆ ก็คือทัศนคติในการเรียนภาษาอังกฤษที่เรามีกันที่ขัดขวางการเรียนรู้ของเราเอง โดยเฉพาะสำหรับเด็กไทยที่เรียนภาษาอังกฤษในไทย ผมสรุปมาให้ 5 ข้อดังนี้ครับ
ว้าย เธอ ดูคนนั้นพูดสิ กระแดะจริงๆ / หมอนี่ออกเสียงชัดไปป่าววะ คนไทยฟังไม่รู้เรื่องเฟ้ย 55 / นึกว่ามันพูดกับฝรั่งอยู่หรือไง /
ไม่กล้าพูดอะค่ะ กลัวพูดผิด / พูดผิดแล้วมันดูไม่ค่อยฉลาดอะครับ / ถ้าพูดผิดแล้วเพื่อนจะล้อ ปล. ในส่วนนี้โทษผู้เรียนอย่างเดียวก็ไม่ถูก ผมเองก็เจอน้องๆ หลายๆ คนที่บอกว่าไม่อยากพูดภาษาอังกฤษก็เพราะผู้สอนบางคนที่ เอาแต่ทำให้เด็กเป็นตัวตลกเวลาทำผิด ซึ่งส่วนตัวผมว่าไม่ใช่วิธีที่ช่วยให้เด็กมีการพัฒนาสักเท่าไหร่ กลับกันยังไปทำให้เค้าหมดกำลังใจในการเรียนรู้ไปเสียด้วยซ้ำไปเพราะกลัวโดน หาว่าโง่ หาว่าไม่รู้ ก็เพราะไม่รู้นั่นแหละเลยต้องฝึก แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปทำให้ใครรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลง รู้สึกอับอายในการสอน
เราปฎิเสธไม่ได้ว่าเราต้องใช้ทั้งแกรมมาและศัพท์ภาษาอังกฤษในการสื่อสารไม่ว่าจะฟัง พูด อ่าน เขียน ครับ
4) อยากพัฒนาเร็วๆ มากๆ จริงๆ เป็นเรื่องดีนะครับ ซึ่งผมแนะนำอยู่เสมอว่าการตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย จับต้องได้ และมีเวลากำหนดเป็นเรื่องดี แต่ทั้งนี้ต้องสมเหตุสมผลด้วยครับ วิธี ประเภทฟังข่าว CNN ทุกวัน แบบนี้ดีแน่นอน แต่ลองดูว่าตัวเองทำได้ยาวนานแค่ไหนยังไง ถ้าทำได้ทุกวันภาษาพัฒนาแน่นอน แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าจะทำได้ แนะนำว่าหาวิธีที่เราจะชอบและทำได้บ่อย ดูหนัง ฟังเพลง ทำกิจกรรมต่างๆ แล้วแต่เราชอบ และค่อยๆ ทำไป อย่าไปกดดันอย่าไปเร่งตัวเอง เรียนและพัฒนาและให้ตัวเองมีความสุขด้วยครับ
5) ไม่มีเวลา ผมเองเคยอ้างแบบนี้ประจำครับ ไม่มีเวลาไปเรียนเลยทำงานมาทั้งวันเหนื่อยนะ พอหาเวลาเรียนได้บ้างก็ไม่ทบทวน (คือเอาจริงๆ ถ้าเรียนและไม่ทวน มันก็ไม่ไปไหนเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเราเรียนแบบ part-time สัปดาห์นึงสัก 2 วันอะไรแบบนี้) ผมก็อ้างต่อไปอีกว่า เหนื่อย งานเยอะ รถติด งานเครียด นุ่นนี่นั่นโน่น สุดท้ายผลก็ออกมาว่าภาษาเราไม่ไปไหน ทั้งนี้ตอนนั้นผมก็ยังมีเวลาไปเที่ยว กับเพื่อน ไปทานข้าว ไปทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ณ ตอนนั้นเราก็ได้แต่คิดว่า โอ้ ภาษาอังกฤษนี่ยากจัง เวลาเราน้อยจัง สารพัดจะอ้าง (ยกเว้นโทษตัวเอง 555) ย้อนนึกไปมองตัวเองก็พบว่าเรามีทัศนคติที่ขัดขวางในการเรียนภาษาหลายๆ อย่าง เหมือนกันนะ (เลยเอาประสบการณ์ของคนที่เคยคิดแบบนี้มาแชร์ให้ฟัง จะได้ไม่ทำซ้ำ )
เวลาเรามีเท่ากันทุกคนในแต่ละวัน แค่อยู่ที่ว่าเราจะแบ่งให้อะไรแค่ไหน เราจริงตังกับการพัฒนาภาษาแค่ไหน
สมมติเราตั้งเป้าหมายว่า ในปีนึงเราต้องพูดภาษาอังกฤษได้ และไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารในเนื้อหาทั่วๆ ไป เป็น priority แรกของเป้าหมายในปีนั้น เราก็มาดูว่าเราจะจัดเวลาให้ประมาณกี่ % ของเวลาที่เรามีครับ
Written by zgamez @Thaiwahclub&Beyondstudy Updated by Vnuch l Online Marketing & Graphic Designer l Beyond Study Center l June 2014 |