เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่กระแสของ Work and Honeymoon Visa กำลังมาแรง เพราะแม้แต่พี่เกมส์เองก็ยังเคยมีประสบการณ์มาจากวีซ่านี้ จนตอนนี้กำลังจะแต่งงานแล้วด้วย ยังไงก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ :) พลอยเองก็เพิ่งจะได้รับวีซ่านี้มา ก็เลยอยากจะมารีวิวให้เข้ากับธีมของวีซ่านี้เล็กๆน้อยๆ ในกรณี่ที่เรามีแฟนเป็นสปอนเซอร์นะคะ
เป้าหมายและจุดประสงค์ของการไป Wah ของแต่ละคนก็อาจจะมีแตกต่างกันไปเนอะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คงจะหนีไม่พ้นคำว่า ฝึกภาษา หาประสบการณ์ บลาๆๆๆ แต่ว่าของพลอยมันไม่ใช่แค่นั้น นอกจากเหตุผลหลักๆแบบที่ทุกคนมีแล้ว ก็คืออยากจะไปหาแฟนที่นู่นค่ะ (คือแฟนอยู่ที่นู่นแล้วจะไปหานะคะ ไม่ใช่ว่าจะไปหาเอาซักคนตอนไป ฮ่าๆ) แฟนพลอยเป็นคนไทยนี่ล่ะค่ะ แต่ว่าเค้าได้ PR จนเป็น Citizen ไปแล้วตอนนี้ ด้วยความที่คบกันมาหลายปี ห่างกัน ไกลกันตลอด ปีนึงได้เจอกันครั้งนึง ที่ผ่านมาพลอยยังเรียนอยู่ก็ได้แต่รอเค้ากลับมา ก็พยายามหาวิธีที่จะทำให้ได้ไปอยู่ใกล้ๆกัน หามันทุกวีซ่า จะไปวีซ่าท่องเที่ยวมันก็อยู่ได้ไม่นาน ทำงานก็ไม่ได้ จะไปวีซ่านักเรียนก็ไม่ได้มีเงินขนาดนั้น หาไปหามาจนมาเจอวีซ่า Wah นี่ล่ะค่ะ ที่ดูแล้วมีความเป็นไปได้มากที่สุด แต่เราก็ต้องใช้ความพยายามมากที่สุดเหมือนกัน พลอยเตรียมตัวเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนเลย พอปีสี่ก็พยายามหาข้อมูลผ่านเว็บของพี่เกมส์ เตรียมตัวสอบไอเอลตั้งแต่เนิ่นๆ(แต่สุดท้ายแล้วก็ไปสอบช่วงกระชั้นชิดอยู่ดี) แพลนว่าพอเรียนจบปุ๊ป เป้าหมายเราก็มุ่งไปที่ wah เลย ซึ่งมันก็พอเป็นไปตามแพลนอยู่ ถึงแม้ว่าระหว่างทางเราอาจจะเหนื่อยบ้างท้อบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน อันนี้สำคัญมากเพราะทางบ้านพลอยไม่มีใครสามารถ support เราได้เลย เราก็เลยต้องพึ่งแฟน ถามว่าเราเกรงใจมั้ย บอกเลยว่ามากๆ แต่เค้าก็ให้ เพื่ออนาคเนอะ ก็มีงอนกัน มีทะเลาะกันไปบ้าง แต่เราก็ผ่านมันไปได้ ช่วงสอบไอเอลก็เครียด เพราะมีเวลาอ่านจริงๆจังๆแค่เดือนเดียว แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยคะแนน 6.0 อาจเป็นเพราะไปเรียนกับพี่เกมส์ด้วยแหละ(แอบโฆษณาให้พี่เกมส์นิดนึง:3) จนถึงช่วงกดโควตาก็ทั้งภาวนาทั้งทำบุญเลย (ทำบุญนี่พลอยจริงจังมากทำมันทุกอาทิตย์55 ขอพรทุกครั้ง 55) แล้วก็กดมาได้ในที่สุด นอกจากนี้ก็ยังต้องหางานทำระหว่างรอยื่นวีซ่าให้หลักฐานของเรามันดูน่าเชื่อถือขึ้นด้วย เยอะแยะหลายสิ่งมาก จนมาถึงขั้นตอนการยื่นวีซ่า ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่มีแฟนเป็นสปอนเซอร์ก็อาจจะต่างจากคนที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นสปอนเซอร์อยู่พอสมควร อีกอย่างคือโอกาสที่วีซ่าจะผ่านได้ง่ายๆก็ดูจะน้อยกว่า ดังนั้นเราก็ควรที่จะต้องเตรียมเอกสารที่ช่วยให้เราได้วีซ่าได้ง่ายขึ้น พลอยก็เลยจะมารีวิววิธีการขอวีซ่าด้วยการให้แฟนของเราเป็นสปอนเซอร์ให้ ซึ่งคำแนะนำทั้งหมดนี้ก็อาจจะแล้วแต่กรณีของแต่ละคนไป แต่พลอยก็พูดถึงในส่วนที่มาจากประสบการณ์ของพลอยและคำแนะนำที่พลอยเคยได้รับนะคะ
ก่อนอื่นเลย จำได้ว่าตอนคุยกันในกรุ๊ปไลน์ ปรึกษาเรื่องวีซ่ากันในช่วงแรกๆก็มีคำถามว่า ถ้าให้แฟนเป็นสปอนเซอร์วีซ่าจะผ่านมั้ยคะ? คำตอบที่ได้ และพลอยยังพอจำได้ก็คือ แฟนก็คือแฟนนะ ไม่ใช่คู่หมั้นหรือสามีภรรยา น้ำหนักในเรื่องของความสัมพันธ์มันจะดูน้อยมากๆ ซึ่งแฟนอาจจะเป็นคนอื่นในสายตาของทางสถานทูตก็ได้(อันนี้ไม่แน่ใจนะคะว่าสถานทูตจะมองยังไง) เราก็เริ่มกังลวละว่าจะทำไงดี ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำ คือการหาข้อมูล หลักฐานต่างๆที่จะเอามาแสดงถึงความสัมพันธ์ของเรากับแฟนว่ามันมากขนาดไหน ให้สถานทูตพอเข้าใจได้ว่าทำไมแฟนถึงต้องให้เงินเราในจำนวนที่เยอะขนาดนั้น
สำหรับเอกสารที่พลอยใช้ยื่นขอวีซ่าในกรณีที่มีแฟนเป็นสปอนเซอร์ พลอยจะแบ่งออกเป็นหลักฐานทางการเงินของพลอยกับของแฟน และหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ของเราสองคนนะคะ สำหรับเอกสารจำเป็นอื่นๆ เพื่อนๆสามารถหาข้อมูลได้จากที่พี่เกมส์ลิสต์ไว้ได้เลยค่ะ
หลักฐานทางด้านการเงินที่พลอยใช้ยื่นไปก็จะมี
ส่วนหลักฐานของแฟนที่พลอยใช้ในการยื่นวีซ่าก็จะมี
นอกจากนี้ก็จะเป็นหลักฐานเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างพลอยกับแฟน โดยที่พลอยใช้ยื่นไปก็มี
แค่นี้เองค่ะที่พลอยกับแฟนใช้ยื่นเพื่อแสดงหลักฐานทางด้านการเงินและความสัมพันธ์ของเราในระยะเวลาเกือบ 8 ปี :)
ตอนยื่นวีซ่าพลอยกังวลมากๆเลยนะ เพราะเคยมีประสบการณ์ทั้งโดนปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวครั้งแรก ครั้งที่สองพอยื่นไปสถานทูตก็โทรมาถามละเอียดยิบเลยเรื่องที่แฟนเราเป็นสปอนเซอร์ให้ ครั้งนี้ก็กังวลอีก คิดว่าทางสถานทูตคงจะโทรมาถามอีกแน่ๆ แต่ไม่เลยค่ะ แถมยังได้วีซ่าเร็วมากๆด้วย 6 วันก็ได้วีซ่าแล้ว (ไม่นับวันเสาร์อาทิตย์นะ)
หวังว่าข้อมูลที่ได้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ อยากให้คนที่กำลังจะยื่นวีซ่าเตรียมพร้อมเรื่องเอกสารให้ได้มากที่สุด เราพยายามมาค่อนปี ทั้งสอบไอเอล ทั้งกดโควตา ก็ขอให้เต็มที่กับสเต็ปสุดท้ายที่เมืองไทย แล้วเตรียมใจไปนับหนึ่งใหม่ที่ออสเตรเลียเนอะ คิดว่าอะไรดีๆรอเราอยู่ที่นั่นแน่นอน คนที่อยากไปเพราะมีใครรออยู่บอกเลยว่ามันคุ้มมากๆกับที่ตั้งใจและพยายามมา ส่วนใครที่จะไปแบบฉายเดี่ยว ก็หวังว่าจะได้เปลี่ยนจาก Work and Holiday Visa เป็น Work and Honeymoon Visa นะคะ จะได้มาเป็นแกงค์เดียวกันน :)
โชคดีนะคะทุกคน
ploy