เมื่อคนธรรมดา คนหนึ่งไม่ได้รวยอะไรมาจากไหนพ่อทำงานรัฐวิสาหกิจ แม่เป็นแม่บ้าน พอมีเงินเก็บอยู่ คิดอยากจะไปเรียนเมืองนอกกับเค้าบ้าง จะเป็นไปได้ไหมเนี่ย?คำตอบคือ ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ ก็มีปัญญาไปและก็ตั้งใจจะไปเรียนจริงๆนี่ แล้วก็อยากไปเห็นเมืองนอกของจริงด้วยว่าจะสวยเหมือนในทีวีไหม แต่เอ๊ะจะไปไหนดีถึงจะประหยัดทรัพย์ ประทับใจ ตอนนั้นคิดอยู่ 2 ประเทศ คือAu...stralia กับNew Zealand เพราะว่าค่าเงินไม่สูงจนเกินไป มีคนหลายคนบอกว่า อย่าไปออสเลย คนไทยเยอะมากๆเดินไปตรงไหนก็เจอ ถ้าไปแล้วจะได้พูดไทยมากกว่าอังกฤษ แล้วสำเนียงก็เพี้ยนด้วย ก็เลยตัดสินใจแบบง่ายๆว่าไปNew Zealand แถมค่าเงินยังถูกกว่าออสนิดหน่อย หลังจากที่ตัดสินใจได้ก็ดำเนินการทันที แต่ต้องทำอะไรก่อนหละเนี่ย ไม่รู้หละ ก็ไปสถานทูตก่อนเลย ต้องได้อะไรมาบ้างหละ สถานทูตนิวซีแลนด์อยู่ในตึกเอมไทย ชั้น14 แต่คิดว่าโชคดีนิดนึงเพราะก่อนที่สุ่มสี่สุ่มห้าขึ้นไป หันไปเห็นป้ายเค้าบอกว่า มีสถานที่แนะแนวการศึกษาต่อ อยู่ชั้น12 เย้ รอดแล้ว พอขึ้นไปเจ้าหน้าที่ท่านก็ให้คำแนะนำ แล้วก็หนังสือมาเล่มนึง ที่บอกถึงลายละเอียดของโรงเรียนทั้งหมดที่อยู่ในนิวซีแลนด์ อยากจะอยู่ที่ไหน เกาะเหนือ เกาะใต้ก็เลือกเอาเลย แต่ขอกระซิบ บอกนิดนึงว่าใครกลัวความหนาวหละก็ ไปอยู่เกาะเหนือจะดีกว่า จะอุ่นกว่านิดหน่อย
ในหนังสือยังบอกถึงหลักสูตรการเรียนการสอน รวมไปถึงค่าใช้จ่าย และเงื่อนไขต่างๆ ถือว่าช่วยได้มากทีเดียว
กลับมาบ้านก็เอาหนังสือมานั่งดู นอนดู ไปไหนดีเนี่ยเรา หลังจากการคำนวณงบประมาณแล้ว ก็เลือกโรงเรียนภาษาแห่งหนึ่งในเกาะใต้เมือง Timaruที่นี่ค่าเรียนไม่แพงมาก แต่ละโรงเรียนก็จะมีข้อเสนอต่างๆเช่น ถ้าเราสมัครเรียนเกิน 6 เดือน ก็อาจจะลดจากอาทิตย์ละ$320 เหลือ$270 และยังมีกิจกรรมเสริมต่างๆที่จะพาไปทำในช่วง วันหยุด เช่น ขี่ม้า ปีนเขา ล่องแก่ง และอื่นๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจ จะต้องดูให้ดี เราอาจจะส่งเมลไปคุยกับทางโรงเรียนดูก่อนก็ได้ เผื่อเค้ามี promotion อะไรดีๆ เอาหละพอเลือกได้แล้วว่าเอาโรงเรียนนี้แหละ
ก็ทำการสมัคร โดยการส่งเมลไปหาเจ้าของโรงเรียน เขียนไปแบบผิดๆถูกๆแต่ก็ได้รวบรวมปัญญาทั้งหมดที่มีของเด็กจบปริญญาตรีคนนึง เขียนไป ลบแล้ว ลบอีก ตายหละ ไวยกรณ์ฉันจะถูกไหม ตอนเรียนก็เรียนภาษาอังกฤษก็เรียนกับครูคนไทย พอจะต้องมาติดต่อกับฝรั่งของจริงก็กลัวๆยังไงก็ไม่รู้ รู้อย่างนี้ให้พ่อกับแม่ส่งเรียนโรงเรียนอินเตอร์ซะตั้งแต่เล็กก็ดี (ถ้ามีเงิน -.-")จะมาฝึกเอาตอนนี้ลิ้นมันก็แข็งซะแล้ว เขียนจดหมายเสร็จ ก็ได้แต่หวังว่าเค้าจะเข้าใจ เฮ้อ !
แต่สุดท้ายที่เรียนมาก็ไม่ได้เสียเปล่าเย้ เพราะ อีกไม่กี่วันก็มีเมลตอบกลับมาเป็นรายละเอียดทั้งหมด ค่าเรียน ค่าที่พัก รวมไปถึงประกันสุขภาพ ตอนนี้ถ้าใครจะไปเรียนต่อต่างประเทศจะต้องมีประกันสุขภาพทุกคน ขอแนะนำว่าทำไปจากเมืองไทยเลยจะง่ายกว่า และถูกกว่า ขั้นต่อไปก็คือการโอนเงิน ตอนนั้นค่าเงินอยู่ประมาณ 18บาท ต่อ $1 ถือว่าดีมาก ตอนนี้ประมาณ28 บาทต่อ $1หลังจากนั้นเค้าจะให้ใบเสร็จ และหลักฐานยืนยันที่อยู่มา แล้วเราก็เอาหลักฐานทั้งหมดนี่แหละไปขอวีซ่า