Member Info
Introduction

Blog Archive

บล็อคอัพเดทล่าสุด

เตรียมตัวก่อนยื่น WAH 2011

prelodge-wah-2011

สวัสดีครับ
สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ Work and Holiday Australia และ Working Holiday Scheme New Zealand ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการรับสมัครปีนี้แล้วครับ

ปล.สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ว่า Work and Holiday คืออะไรลองอ่านรายละเอียดคร่าวๆในนี้ดูครับ Work and Holiday FAQ
ปกติการสมัคร Work and Holiday โดยปกติแบ่งออกเป็นสองขั้นตอนได้แก่
การขอใบรับรองจากสท. -- อ่านขั้นตอนการขอหนังสือรับรองจากสท. 2010
การขอวีซ่าจากสถานทูต - อ่านขั้นตอนยื่นวีซ่า WAH 2010


สำหรับปี 2011 นี้น่าจะเป็นปีนึงที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในกติกาการรับสมัครพอสมควร ดังนั้นก่อนที่จะถึงการสมัครผมรวบรวมมาให้ครับว่ามีอะไรที่น่าจะเปลี่ยนแปลงบ้างในปีนี้ครับ

1) ขอใบรับรองออนไลน์ : เริ่มด้วยข้อแรกซึ่งผมว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดเลยสำหรับปีนี้ คือการที่สท.จะนำระบบออนไลน์เข้ามาใช้กับการขอใบรับรอง
ณ วันนี้ (19/06/2011) ยังไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากสท. แต่เนื่องจากในรายละเอียดการอบรมเชิงปฏิบัติการที่ทางสท.จัดขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Work and Holiday มีหัวข้อหนึ่งคือ
การสมัครแบบออนไลน์ โดย บริษัท MFEC อ้างอิงจาก ประกาศ รายชื่อผู้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการ Work and Holiday visas และ Working Holiday Scheme ประจำปี ๒๕๕๔ [ 15 - Jun - 11 ] ในเวป สท.

นอกจากนั้นก็มีการตอบกระทู้ จากเจ้าหน้าที่สท. (ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องน่าชื่นชมมากที่สท.มีเจ้าหน้าที่มาตอบกระทู้อย่างค่อนข้างรวดเร็วและต่อเนื่องในปีนี้ครับ)
สองกระทู้นี้เป็นสองกระทู้ที่เจ้าหน้าที่สท.ตอบไว้เกี่ยวกับการสมัครออนไลน์เช่นกันครับ


http://www.opp.go.th/wb/wshow.php?id=1524
http://www.opp.go.th/wb/wshow.php?id=1523

ดังนั้นเลยค่อนข้างจะแน่ใจได้ว่าสท.จะนำวิธีสมัครโควต้าออนไลน์มาใช้ในปีนี้ครับ
ข่าวดีก็คือเพื่อนๆหลายๆคนที่อยู่ในวงการ IT ยืนยันว่าบริษัทนี้มีชื่อเสียงอยู่ดังนั้นก็หวังว่าการสมัครออนไลน์จะราบรื่นครับ

2) การตรวจสุขภาพ (Australia) : เนื่องด้วยสถานทูตออสเตรเลียเปลี่ยนกติกามาใช้ระบบ Online (eHealth) แล้วสำหรับตรวจสุขภาพยื่นวีซ่าออสเตรเลียดังนั้นกติกาการตรวจสุขภาพจะเปลี่ยนไป
จากที่สมัยก่อนสถานทูตจะอนุญาตให้เราสามารถไปตรวจสุขภาพก่อนที่จะยื่นวีซ่าได้ แต่ตอนนี้จะต้องยื่นวีซ่าไปก่อน แล้วทางสถานทูตจะส่งรายละเอียด (Health Examination List หรือ client identification number) มาให้เราไปตรวจสุขภาพอีกทีครับ


ณ ตอนนี้มีหลายๆคนจะไปตรวจสุขภาพก่อน แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะทางโรงพยาบาลต้องได้รับการติดต่อจากทางสถานทูตก่อน ดังนั้นหากเรายังไม่ได้ยื่นวีซ่าไป และยังไม่ได้รับการติดต่อจากสถานทุตทางรพ.จะไม่สามารถให้เราตรวจสุขภาพสำหรับขอวีซ่าได้ครับ กติกานี้ใช้กับวีซ่าอื่นๆดังนั้นสำหรับ Work and Holiday ก็ควรจะเหมือนกันครับ
สำหรับ eHealth เองนี่สถานทูตนำมาใช้เพราะทำให้ process ง่ายและเร็วขึ้นครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ eHealth

eHealth – Electronic Health Processing


3) โรงพยาบาลที่สามารถไปตรวจสุขภาพได้ (Australia) :
สำหรับผู้ที่ตรวจที่กทม. ไม่สามารถไปตรวจที่โรงพยาบาล มงกุฎวัฒนะได้แล้วนะครับ แต่สามารถไปตรวจที่ Bangkok Nursing Home (BNH) และ Bangkok General Hospital (รพ.กรุงเทพ) ได้เหมือนเดิมครับ ดังนั้นอย่าไปตรวจผิดที่นะครับ
สำหรับจังหวัดอื่นๆ และรายชื่อรพ.ที่ตรวจสุขภาพสำหรับขอวีซ่าออสเตรเลียได้ สามารถตรวจสอบได้ที่นี่ครับ
Panel Doctors Thailand

นอกเหนือจากที่กล่าวไปทั้งสามข้อแล้ว อาจจะมีเรื่องค่าธรรมเนียมวีซ่า และค่าเงินซึ่งจะปรับอีกทีในช่วงต้นกค. ครับ ดังนั้นตอนนี้ก็รอไปก่อน ค่อยไปเชคกันอีกทีต้นเดือนครับ :)

ข้อมูลล่าสุดจากเวปบอร์ดสท.
สท.จะประกาศอย่างเป็นทางการถึงกำหนดการการสมัครในสัปดาห์หน้า ดังนั้นให้คอยดูในเวป opp.go.th ไว้ครับ
อย่างไรก็ตามในกระทู้ข้างต้น มีบอกไว้ว่าจะให้รับสมัครจองคิวออนไลน์ในวันที่ 4 กค. 2011 โดยจะให้กรอกฟอร์มสมัครออนไลน์ และต้อง attach ผลภาษาอังกฤษ และ รูปถ่ายไปด้วย ดังนั้นสิ่งที่ควรจะมีให้พร้อมที่สุด ณ ตอนนี้คือผล IELTS 4.5 หรือ TOEFL ที่เทียบเท่าครับ

ฟอร์มต่างๆที่ใช้ในการสมัครกับสท.
สท.น่าจะอัพโหลดไฟล์เวอร์ชันใหม่ให้เร็วๆนี้ พร้อมกับการประกาศวันจองคิวออนไลน์
แต่เพราะมีหลายๆคนขอให้รวบรวมว่าปีที่แล้วเค้าใช้ฟอร์มอะไรบ้างจึงรวบรวมของเก่ามาให้ครับ (เข้าไปดูพอเป็น reference พอ ของปีนี้ ค่อยรอสท.ประกาศอีกที : อนึ่ง ปีก่อนๆเค้าใช้เอกสารไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ แต่ปีนี้ทำออนไลน์เลยไม่รู้จะทำฟอร์มใหม่ด้วยมั้ย ปกติเปลี่ยนปีเฉยๆ) ฟอร์มหลักๆที่ใช้ในการยื่นเอกสารกับสท.ในปี 2010 ก็คือ
ใบบันทึกข้อตกลง (รวมถึงแผนการเดินทางและความคาดหวังต่อโครงการ) (Australia 2010)

อันนี้เวอร์ชันของนิวซีแลนด์ครับ (2010)
ใบบันทึกข้อตกลง (NZ 2010)

สำหรับคนที่จบอินเตอร์มา ผมแนะนำว่านอกจากใบ transcript แล้วถ้ามีใบรับรองเป็นหลักฐานว่าเราเรียนเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วยก็จะดีครับ
ใบนี้เด็ก ABAC หลายคนบอกตอนยื่่นก็ไม่ได้ใช้กัน แต่อย่างที่ผมบอกไว้เสมอๆว่ามีไว้เกินดีกว่าขาดครับ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงเตรียมไว้ให้พร้อมดีกว่า

หนังสือรับรองว่าเรียนเป็น English Program


ฟอร์มนอกนั้นเป็นฟอร์มที่ใช้กับตอนยื่นกับสถานทูตมากกว่าครับ โดยสามารถอ่านได้จาก
ขั้นตอนการยื่นวีซ่า WAH 2010 – Final Draft ครับ

ในไฟล์นั้นจะมีลิงค์ให้โหลด ข้อแนะนำในการเขียนแผนการเดินทาง และอื่นๆให้แล้วครับผม

ปล. แผนการเดินทางเป็นหลักฐานเพียงอย่างเดียวที่ผมไม่ลงตัวอย่างให้และไม่แนะนำให้ลงตัวอย่างเพราะกลัวว่าจะมีบางคนเอาไปใช้เลยโดยไม่แก้ และถ้ามันเหมือนกันซะหมดก็จะไม่ดีกับรุ่นหลังๆแน่นอนครับ สถานทูตและสท.ไม่ชอบใจแน่นอน

หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่สนใจโครงการปีนี้บ้างครับ :)

เกมส์

Posted : Jun 18, 2011 , 17:11:02 PM     View : 80273
02 No.
First Last 01 No.
เนื้อหาน่าสนมจมากๆ >>>> slotxo
reply    report