ตัวอย่างการวางแผนการขอ Student Visa / Working Holiday NZ / Work and Holiday OZ

วีซ่านักเรียน วีซ่า Working Holiday NZ และวีซ่า Work and Holiday OZ มีคุณสมบัติและวิธีตลอดจนค่าใช้จ่ายในการขอที่ต่างกันครับ แต่หลักๆแล้วหลักฐานการยื่นจะไม่ได้ต่างอะไรกันเยอะแยะ วันนี้จะมายกตัวอย่างการวางแผนขอและใช้ทั้งสามวีซ่าให้ฟังครับ วิธีขอวีซ่าเซตนี้ผมได้มาจากเพื่อนผมครับ ซึ่งเพิ่งบินมาจากเมืองไทยพร้อมกับผมด้วยวีซ่านักเรียนเหมือนกัน ก่อนอื่นขอแนะนำเพื่อนคนนี้แบบคร่าวๆ

แป๋ม เป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับผม รู้จักกันโดยการแนะนำของรุ่นพี่เวิร์คฮอลิเดย์คนหนึ่งซึ่งตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ที่นิวซีแลนด์ครับ แป๋มเป็นสมาชิกเวปแบบแอบๆแต่มั่นคง ไปร่วมงานสัมมนาที่จัดไปและให้ผมทำเรื่องสมัครเรียนให้แต่ไม่ได้มาโพสถามอะไรในเวปเพราะถามหลังไมค์มากกว่า อิอิ

เข้าเรื่องครับ ผมเห็นว่าแป๋มวางแผนใช้ชีวิตในช่วงสองปีกว่าๆนี้ค่อนข้างดี ผมเลยขออนุญาตเอาเรื่องเค้ามาเขียนให้อ่านกันเพราะเห็นว่าอาจเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่สนใจอยากเดินทางหาประสบการณ์ครับ โดยแผนของแป๋มสามารถแบ่งได้ดังนี้

วีซ่านักเรียน Australia – แป๋มลงเรียนภาษาหกเดือนกับโรงเรียนภาษาชั้นนำที่ซิดนีย์ครับ (ผมค่อนข้างชอบโรงเรียนนี้เป็นการส่วนตัวเพราะผมเองก็ไปเรียนมาตอนมาใหม่ๆ และภาษาได้พัฒนาไปเยอะพอสมควร ณ ช่วงนั้น) คอร์สที่แป๋มลงเป็นแบบเรียนภาษาพร้อมมีฝึกงานด้วย ซึ่งหมายถึงจะได้ประสบการณ์ทำงานจริงๆที่ออสเตรเลียครับ
ที่มาด้วยวีซ่านักเรียนก่อนมีข้อดีดังนี้ครับ - ได้ภาษาแบบจริงจังเพราะได้มาเรียนการใช้ภาษาแบบถูกต้อง
- ได้ลองใช้ชีวิตก่อนว่าชอบจริงหรือเปล่า อยากไปประเทศอื่นอีกรึเปล่า
- ได้เพื่อนต่างชาติ ได้เรียนรู้สังคมใหม่ๆจากเพื่อนที่โรงเรียน ซึ่งก็มีพวกเวิร์คฮอลิเดย์ชาติอื่นๆ เช่นเกาหลีและญี่ปุ่นด้วยเหมือนกัน - ได้คอนเนคชันจากการทำงาน การฝึกงานระหว่างเป็นนักเรียน
แป๋มจะใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลียเป็นเวลาเจ็ดเดือนครับ หลักจากนั้นก็จะเข้าสู่แผนสอง...

วีซ่า Working Holiday New Zealand – เมื่อเรียนจบตามกำหนด แป๋มจะบินไปนิวซีแลนด์ในเดือนเมษายนครับ ทั้งนี้เพราะแป๋มได้ทำการขอวีซ่านี้ไว้ก่อนแล้วในรอบที่ผ่านมา ดังนั้นแป๋มจึงมีวีซ่านิวซีแลนด์ติดตัวไว้แล้ว ข้อดีที่แป๋มขอวีซ่านิวซีแลนด์มาก่อนก็คือ
- ไม่ต้องบินกลับไปไทย สามารถไปต่อที่นิวซีแลนด์และเริ่มทำงานได้เลย
- หลังจากเรียนภาษามาหกเดือน ภาษาน่าจะพัฒนาไประดับหนึ่ง อย่างน้อยที่สุดที่ได้แน่ๆก็คือในแง่ของความมั่นใจครับ
- วีซ่านิวซีแลนด์ตัวนี้ก็มีกติกาคล้ายๆเวิร์คฮอลิเดย์ออสเตรเลีย ที่อนุญาตให้เดินทางเข้านิวซีแลนด์หลังจากได้รับวีซ่าแล้วภายในหนึ่งปี ดังนั้นหลังเรียนภาษาหกเดือนไปแล้ว แป๋มก็ยังสามารถบินเข้านิวซีแลนด์ไปได้สบายใจเฉิบ
- ระยะของวีซ่าที่ให้อยุ่ได้หนึ่งปี จะเริ่มนับก็ต่อเมื่อแป๋มเข้าไปเหยียบนิวซีแลนด์ ดังนั้นไม่มีผลว่าระยะเวลาวีซ่าสั้นลงแต่ประการใด
- วีซ่านิวซีแลนด์เป็นมัลติเพิลเอนทรี สามารถบินเข้าออกได้หลายครั้งซึ่งจะส่งผลดีกับขั้นต่อไป...

วีซ่า Work and Holiday Australia – วีซ่านี้เป็นวีซ่าเดียวในสามตัวที่แป๋มยังไม่ได้ขอ แต่ว่าได้วางแผนไว้แล้วว่าจะกลับไปขอทันทีที่สท.เปิดรับสมัคร
แป๋มจะอยู่ในนิวซีแลนด์จากเดือน เมษา จนถึง ช่วงประมาณ ปลายเดือนมิถุนายน จากนั้นจะบินกลับไทย ซึ่งแป๋มก็มีผลไอเอลท์พร้อมแล้ว ไม่ต้องเตรียมตัวเพิ่มเติมอะไรมากแต่อย่างใด เรียกได้ว่าไปถึงก็ยื่นกันได้เลย
เมื่อวีซ่าผ่าน แป๋มก็จะบินกลับมานิวซีแลนด์ใช้สิทธิวีซ่าที่มีอยู่ให้หมด และจากนั้นก็บินกลับมาใช้เวิร์คฮอลิเดย์ออสเตรเลียต่ออีกหนึ่งปี

สรุปว่าผมเห็นว่าแป๋มวางแผนได้น่าสนใจและดูคุ้มค่ามากๆครับ กับการใช้สิทธิ์ที่ตัวเองมีทั้งหมด เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าวางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่งครับ อิอิ

อย่างไรก็ตามแป๋มถล่มตัวว่าแผนนี้ ไม่ได้โก้เก๋อะไร คนอื่่นวางแผนกันดีๆเยอะแยะ ดังนั้นผมขอให้แผนนี้เป็นตัวอย่างดีๆ ตัวอย่างหนึ่งแล้วกันครับ

zgamez : อ่านเรื่องประสบการณ์ฝึกงานของแป๋มได้ใน Internship in Australia โดยแป๋ม ครับ